ตอนที่เราได้สร้างบ้านหรือซื้อบ้านใหม่แล้วมันเป็นความรู้สึกที่ดีเป็นอย่างมาก ทั้งด้านในด้านนอกมันก็ดูสวยงามไปหมดเพราะมันยังใหม่อยู่ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บ้านของเราก็เริ่มจะถูกกาลเวลากัดกร่อนและเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งวัสดุเริ่มเสื่อมสภาพ บ้านเริ่มเก่ามีสภาพเริ่มโทรม แต่แบบนี้เราสามารถชะลอในการเสื่อมสภาพได้หากมีการดูแลบำรุงอย่างต่อเนื่อง แล้วมีอะไรที่เราต้องดูแลบ้านของเราบ้าง ทุกวิธีสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือจะจ้างก็ได้เช่นกัน
7 สิ่งที่เราต้องดูแลบ้านให้เหมือนใหม่ได้ทุกวัน
1. ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ
การทำความสะอาดบ้านก็นอกจากจะช่วยทำให้บ้านของเราสะอาดน่าอยู่แล้ว ยังช่วยไม่ให้บ้านของเรากลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ซึ่งหากเราไม่ทำความสะอาดเลยหรือนานๆ ครั้งทำความสะอาดสักทีก็อาจจะทำให้จุดต่างๆ ของบ้านเกิดคราบฝังแน่นหรือทำความสะอาดได้ยากด้วย แต่ทางเราเชื่อว่าการทำความสะอาดบ้านนั้นก็ทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ในด้านของการทำความสะอาดในจุดที่อับต่างๆ เช่น ด้านหลังตู้ เพดาน ห้องครัวในจุดที่คราบฝังลึก เป็นต้น อันนี้เราก็ควรทำอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
รวมถึงพวกเศษอาหารต่างๆ ควรจะเก็บและทิ้งให้เรียบร้อย ไม่ควรปล่อยไว้เป็นเวลาหลายวัน หากเคลียร์ออกได้ทุกวันยิ่งดีเพื่อป้องกันพวกแมลงสาบ มด หรือหนู หรือสัตว์ต่างๆ ที่อาจจะหาอาหารและมาเจอกับเศษอาหารที่ทิ้ง ทำให้บ้านของเราปราศจากแมลงรบกวนด้วย
2. ทำความสะอาดห้องน้ำสม่ำเสมอ
ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราต้องใช้งานเป็นประจำและต้องเจอกับน้ำแทบจะตลอดเวลา ทำให้ห้องน้ำเกิดความชื้นและอาจจะเกิดเชื้อราได้หากไม่มีการระบายอากาศที่ดีพอ และมันอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้
สิ่งที่สร้างความกังวลให้กับหลายคนเลยคือพวกคราบต่างๆ ที่มักจะเกิดในห้องน้ำอย่างเช่นพวกคราบเหลือง ยาแนวเริ่มดำ ในด้านนี้เราขอแนะนำว่าให้หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งก็ยังดี เพื่อไม่ให้คราบที่เกาะอยู่บนกำแพงที่อาจจะมาจากสบู่หรือยาสระผมหรือครีมที่เราใช้มันเกาะอยู่บนผนังและฝังแน่นจนไม่สามารถขัดออกได้
ยิ่งเราทำบ่อยก็ยิ่งดีเพราะมันจะทำให้ห้องน้ำของเราดูใหม่และสะอาดสะอ้าน ส่วนเรื่องยาแนวที่มันดำหรืออาจจะเกิดเชื้อรานั้นเราสามารถยาแนวตามร่องกระเบื้องเองได้ง่ายๆ หรือหากไม่สะดวกในการยาแนวเองก็จ้างช่างมาทำได้เช่นกัน
3. ดูแลสีผนังทั้งภายในและภายนอก
ผนังของบ้านเป็นสิ่งที่เหมือนสภาพแวดล้อมหลักของบ้านและไม่มีใครชอบนักหากกำแพงบ้านของเรามีความสกปรกมันจะทำให้บ้านของเราดูเก่าทรุดโทรม และไม่น่าอยู่นัก สำหรับการดูแลเราสามารถทำได้ดังนี้
ทำความสะอาด ผนังภายในบ้านมักเลอะคราบสกปรกได้ง่าย ควรทำความสะอาดโดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดเบาๆ หรือใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เช็ดตามคราบสกปรก จากนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเช็ดซ้ำอีกครั้ง
กำจัดเชื้อรา ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง อาจเกิดเชื้อราบนผนังได้ ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดและขจัดเชื้อราด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม
ซ่อมแซมรอยร้าว หากมีรอยร้าวบนผนัง ควรซ่อมแซมโดยใช้ โป๊ว หรือ สีโป๊ว อุดรอยร้าวให้เรียบเสมอกันก่อน ทาสีทับ
ทาสีใหม่ เมื่อสีผนังเริ่มซีดจางหรือลอกล่อน ควรทาสีใหม่เพื่อความสวยงามและปกป้องผนัง
4. ตรวจสอบร่องรอยของปลวก
ปลวกไม่ได้ขึ้นเพียงแค่บ้านไม้อย่างที่หลายคนคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น บ้านปูนมันก็สามารถขึ้นได้เหมือนกัน แม้มันจะไม่สามารถกินปูนได้แต่มันก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างอื่นๆ แถมยังทิ้งความสกปรกไว้ในบ้านของเราได้อีก เราสามารถสำรวจร่องรอยของปลวกเองได้ด้วยตัวเอง แต่วิธีการกำจัดเราอาจจะต้องจ้างให้บริษัทกำจัดปลวกเข้ามาดูแลให้
5. ดูแลเรื่องระบบไฟฟ้า
หากบ้านเริ่มมีอายุสิ่งที่มักจะตามมาเลยก็คือเรื่องระบบไฟฟ้าที่อาจจะมีปัญหาหรือเกิดเรื่องอุปกรณ์เก่าและอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้หากเราไม่มีการบำรุงหรือดูแลมัน เบื้องต้นคุณอาจจะต้องสังเกตสักนิดว่าพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราเก่าเกินไปหรือไม่ หรืออันไหนที่มีปัญหาเรื่องสายไฟเริ่มร่อนออกก็ควรที่จะเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟรั่วได้ หรือถ้าเกิดพบว่าแผงไฟของบ้านมีปัญหาก็ควรเรียกช่างเข้ามาตรวจสอบทันที
6. ดูแลเรื่องรอยรั่วต่างๆ
การตรวจสอบและแก้ไขรอยรั่วซึมในบ้านเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างและอุปกรณ์ภายในบ้าน และเรื่องการรั่วซึมก็สร้างปัญหาใหญ่ให้กับบ้านแบบสุดๆ ในด้านรอยรั่วที่ควรตรวจสอบเลยก็คือพวกจุดตามฝ้าเพดานที่อาจจะซึมมาจากบนหลังคา บริเวณห้องน้ำชั้นบน หากมีการรั่วซึมของน้ำควรจะรีบแก้ไขทันทีเพื่อไม่ให้มันเป็นปัญหาใหญ่จนส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง
ส่วนในด้านระบบประปาเองก็ควรตรวจสอบมิเตอร์น้ำบ่อยๆ ว่ามีการผิดปกติใดๆ หรือไม่ และถ้าหากพบว่าค่าน้ำที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนสูงขึ้นผิดปกติก็สันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเกิดปัญหากับท่อน้ำหรือระบบส่งน้ำภายในบ้านของเรา
7. หมั่นทำความสะอาดรอบบ้าน
บางบ้านบริเวณพื้นที่รอบๆ อาจจะมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ เราควรที่จะหมั่นดูแลเพื่อไม่ให้ต้นไม้เติบโตมากเกินไปจนบ้านรก ควรจะมีการตัด ตกแต่ง และทำความสะอาดบริเวณรอบๆ บ่อยครั้งด้วย นอกจากจะสร้างความสบายตาน่าอยู่ให้กับเราแล้ว ยังเป็นการป้องกันพวกสัตว์มีพิษหรือสัตว์อันตรายต่างๆ ที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านของเราด้วยหากมันรกเกินไป
สรุป
การดูแลบ้าน เปรียบเสมือนการดูแลร่างกายของเรา บ้านเปรียบเสมือนร่างกายที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บ้านคงอยู่ได้อย่างยาวนาน ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย