ในกลุ่มธุรกิจการก่อสร้าง คำว่า “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” และ “บริษัทรับเหมา” มักถูกใช้สลับกันไปมา แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้ไม่ได้มีความหมายเหมือนกันทั้งหมด ถึงแม้จะมีบทบาทที่คล้ายกันในการทำโปรเจกต์ก่อสร้าง แต่ยังคงมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของรูปแบบการทำงาน ความเชี่ยวชาญ และบริการที่มีให้ ลองมาดูกันว่าผู้รับเหมาก่อสร้างกับบริษัทรับเหมานั้นต่างกันอย่างไร และเมื่อไหร่ที่ควรเลือกใช้งานใคร
ก่อนจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องรู้อะไรบ้าง
- สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
ความแตกต่างระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้าง Vs บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
ผู้รับเหมาก่อสร้าง
ผู้รับเหมาก่อสร้างคือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่รับจ้างทำงานก่อสร้างหรือซ่อมแซมตามสัญญาที่ตกลงกัน โดยผู้รับเหมาก่อสร้างอาจเป็นบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนทำธุรกิจเป็นรายบุคคล หรืออาจเป็นทีมเล็กๆ ที่เชี่ยวชาญในงานก่อสร้างบางประเภท เช่น งานปูกระเบื้อง ทาสี หรือติดตั้งไฟฟ้า
บริษัทรับเหมา
บริษัทรับเหมาเป็นองค์กรหรือบริษัทที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีโครงสร้างการบริหารจัดการเป็นระบบ และสามารถรับงานขนาดใหญ่หรือซับซ้อนมากขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างอาคาร งานถนน หรือโปรเจกต์ที่ต้องการความเชี่ยวชาญในหลายด้านพร้อมกัน บริษัทรับเหมามักมีทรัพยากรและทีมงานที่พร้อมรองรับโปรเจกต์ขนาดใหญ่หรือที่ต้องการการประสานงานหลายส่วน พร้อมทั้งสามารถทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ และส่วนมากแล้วผู้คนให้ความมั่นใจกับบริษัทรับเหมามากกว่า เพราะรู้สึกว่าจะมีตัวตนและหากเกิดปัญหาใดๆ ก็สามารถแจ้งกับบริษัทหรือติดต่อทางเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้ความช่วยเหลือได้
แต่บางครั้งหากพนักงานในบริษัทรับเหมาไม่เพียงพอ ทางบริษัทก็อาจจะมีการจับมือร่วมกันกับผู้รับเหมาก่อสร้างก็มีเหมือนกัน
ความแตกต่างในการทำงาน
แม้ว่าผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทรับเหมาก่อสร้างจะมีบริบทและฟังดูคล้ายกันเป็นอย่างมาก แต่เรื่องของเนื้องานและชนิดของงานก็จะมีความแตกต่างกัน
ผู้รับเหมาก่อสร้าง มักจะรับงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น การรีโนเวทบ้าน งานซ่อมแซมเล็กๆ งานที่ต้องการช่างฝีมือในบางด้านเท่านั้น เนื่องจากว่าหากเป็นงานสเกลใหญ่ผู้รับเหมาอาจจะมีคนไม่เพียงพอ
บริษัทรับเหมา เหมาะสำหรับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างอาคารสูง คอนโดมิเนียม หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งต้องการทีมงานและทรัพยากรจำนวนมาก แต่บางครั้งก็จะมีงานรับสร้างบ้านเดี่ยวหรือบ้านส่วนบุคคลด้วย ซึ่งบ้านเพื่อนเองก็รับทำเช่นกัน
ความยืดหยุ่นในบริการ
ผู้รับเหมาก่อสร้าง มักจะมีความยืดหยุ่นในการเจรจาต่อรองค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขต่างๆ ตามตกลงของเจ้าของงานกับผู้รับเหมา โดยมากแล้วจะทำตามที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก มีความเป็นกันเองสามารถเจรจาได้ง่าย
บริษัทรับเหมา มีกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ มีแผนงานที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงใดๆ อาจต้องผ่านขั้นตอนการอนุมัติหลายชั้น ทำให้ความยืดหยุ่นต่ำกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นมืออาชีพสูงกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะเกิดการล่าช้าขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่ดูแล้วกระทบต่อภาพรวม เพราะต้องให้วิศวกรเข้ามาประเมินอีกครั้งหนึ่งและนำไปวิเคราะห์แจ้งกับลูกค้า
การควบคุมคุณภาพ
ผู้รับเหมาก่อสร้าง ความเชี่ยวชาญของผู้รับเหมาแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ทำให้คุณภาพของงานขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะของผู้รับเหมาเป็นหลัก เช่น ผู้รับเหมากลุ่ม A อาจจะมีความเชี่ยวชาญด้านงานปูกระเบื้อง แต่ไม่ถนัดด้านการทำโครงสร้างหลังคา เป็นต้น หลังทำงานเสร็จก็จะถูกตรวจสอบโดยหัวหน้างานของผู้รับเหมาเช่นกัน
บริษัทรับเหมา มีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด มีทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญที่คอยควบคุมการทำงานเพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่ตกลง ทำให้มั่นใจได้ว่างานมีคุณภาพดีในทุกขั้นตอน และในการตรวจสอบก็จะได้ทีมงานจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยในการตรวจสอบอีกด้วย
บทความแนะนำจากบ้านเพื่อน
-

10 ต้นไม้มงคล ปลูกแล้วรวย ปลูกแล้วดี เสริมดวง เรียกทรัพย์
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
-

10 วิธีทำให้บ้านเย็นสบายสู้กับอากาศร้อน
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
-

10 วิธีลดกลิ่นอับภายในบ้าน ให้บ้านสดชื่นอีกครั้ง
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
ทรัพยากรและการจัดการ
เรื่องทรัพยากรและการจัดการก็จะหมายรวมถึงพวกเครื่องมือเครื่องไม้ต่างๆ ที่ใช้สำหรับการก่อสร้างในงานนั้นๆ
บริษัทรับเหมาจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยครบครัน เช่น เครน รถขุด หรือเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ ทำให้งานเสร็จเร็วและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างอาจมีเครื่องมือพื้นฐานเท่านั้น เช่น สว่าน ค้อน ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องการใช้งานเครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่ผู้รับเหมาบางรายที่มีทุนเยอะก็อาจจะมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เหมาะกับงานเฉพาะด้วยเช่นกัน
สำหรับในด้านการบริหารจัดการ บริษัทรับเหมามีการจัดการทีมงานเป็นระบบมากกว่า มีการวางแผนงาน การจัดการทรัพยากร และการจัดการความเสี่ยงที่เป็นระบบ ช่วยให้โครงการขนาดใหญ่สามารถทำได้ตามแผนและงบประมาณที่กำหนด แต่ผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นรายบุคคลมักต้องจัดการทุกอย่างเอง ตั้งแต่การคุมงาน ประสานงานกับลูกค้า และจัดซื้อวัสดุ
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
ผู้รับเหมาก่อสร้างอาจมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สูงกว่าบริษัทรับเหมาบางครั้ง โดยเฉพาะงานที่ต้องการทักษะที่เฉพาะเจาะจง เช่น การซ่อมแซมบ้านเก่า การทำห้องน้ำใหม่ หรืองานช่างไม้ ในขณะที่บริษัทรับเหมาจะมีความเชี่ยวชาญในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการการประสานงานจากหลายฝ่าย ซึ่งมีข้อได้เปรียบในเรื่องการวางแผนงานและทรัพยากร ในบางครั้งบริษัทผู้รับเหมาก็จำเป็นจะต้องมีการร่วมมือกับผู้รับเหมาเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุดด้วยในบางครั้ง
ค่าใช้จ่ายและงบประมาณ
ผู้รับเหมาก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมามักจะถูกกว่าบริษัทรับเหมา เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่ซับซ้อน และมักจะตกลงราคาโดยอิงตามงานที่ทำ ซึ่งเหมาะกับงานซ่อมแซมและงานเล็กๆ
บริษัทรับเหมา ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าผู้รับเหมา เพราะมีการจัดการทรัพยากร การบริหารงาน และทีมงานที่มากขึ้น แต่จะมีการควบคุมงบประมาณและมีแผนที่ชัดเจนในการทำงาน ทุกอย่างสามารถชี้แจงได้จากงบประมาณการเงินที่ทางบริษัทได้ยื่นเสนอให้กับลูกค้า พร้อมตรวจสอบความทุกต้องได้ตลอด
ข้อดีและข้อเสียของผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทรับเหมา
ข้อดีของผู้รับเหมาก่อสร้าง
- มีความยืดหยุ่นสูงในการทำงานและการเจรจาต่อรอง
- ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เหมาะสำหรับงานเล็กๆ
- ง่ายต่อการติดต่อและประสานงาน
- มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูงกว่าบริษัทในบางเจ้า
ข้อดีของบริษัทรับเหมา
- มีทีมผู้เชี่ยวชาญครบวงจร พร้อมทรัพยากรเครื่องจักรครบครันและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- การจัดการโครงการเป็นระบบ ทำให้งานเสร็จตามแผน
- มีการควบคุมคุณภาพและประกันงานอย่างเข้มงวด
- สามารถตรวจสอบการทำงานและงบประมาณได้ทุกขั้นตอน
เมื่อไหร่ควรเลือกใช้ผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทรับเหมา
การเลือกใช้งานผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทรับเหมาขึ้นอยู่กับขนาดของโปรเจกต์และงบประมาณที่ตั้งไว้ หากเป็นโปรเจกต์ขนาดเล็กที่ไม่ซับซ้อน ผู้รับเหมาก่อสร้างอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและสามารถทำงานได้เร็วกว่า
แต่ถ้าต้องการงานขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างตึกสูง ห้างสรรพสินค้า หรือโครงการที่ต้องใช้วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญ บริษัทรับเหมาจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในหลายด้านและมีเครื่องมือที่ทันสมัย หรือหากต้องการความมั่นใจในเรื่องคุณภาพก็สามารถใช้งานระดับบริษัทได้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายเจ้าให้เลือก อย่างบ้านเพื่อนเอง
สรุป
ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง และ บริษัทรับเหมา มีบทบาทสำคัญในการก่อสร้าง แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญ การเลือกใช้งานต้องดูที่ขนาดของโปรเจกต์ งบประมาณ ความเชี่ยวชาญ และความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียด
การตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทรับเหมาจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนงานก่อสร้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของผู้ว่าจ้างเป็นหลัก



