คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นตามมาคือ เมื่อมีทั้ง “ชินแส” ที่เน้นศาสตร์ฮวงจุ้ย และ “ผู้รับเหมา” ที่เน้นเรื่องโครงสร้างวิศวกรรม สองฝ่ายนี้สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ หรือว่ากลับกลายเป็นสิ่งที่สวนทางกันโดยสิ้นเชิง บทความนี้จะพาหาคำตอบอย่าง พร้อมสะท้อนประสบการณ์จริงของการสร้างบ้านแบบที่ “ศาสตร์ฮวงจุ้ย” กับ “ความเป็นวิศวกรรม” เดินไปด้วยกันได้
ชินแสกับผู้รับเหมา ไปด้วยกันได้ไหม
ชินแสกับบทบาทในการสร้างบ้าน
เมื่อพูดถึงการสร้างบ้านโดยมีชินแสเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนมากเจ้าของบ้านจะเลือกเรียกชินแสตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น เช่น ตรวจที่ดิน ดูทิศทางลม ตรวจตำแหน่งที่ควรสร้าง และเสนอแนะแนวทางวางแปลนเบื้องต้น ชินแสบางคนอาจแนะนำสีของบ้าน ทิศทางของหน้าต่างหรือประตู หรือแม้แต่ตำแหน่งของบ่อน้ำในบ้านด้วย
หน้าที่ของชินแสไม่ได้มาแทนที่ผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมา แต่จะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เจ้าของบ้านใช้ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความศรัทธา และความสบายใจของแต่ละบุคคล
ผู้รับเหมา กับหน้าที่ตามหลักการวิศวกรรม
ผู้รับเหมามักจะใช้แปลนที่ออกแบบโดยสถาปนิกหรือวิศวกร และเมื่อมีการปรับแปลนหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เช่น ตำแหน่งห้องหรือตัวอาคาร ก็จำเป็นต้องพิจารณาทั้งเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้าง และผลกระทบที่จะตามมา เช่น ระบบน้ำ ระบบไฟ หรือแม้แต่ระยะถอยร่นตามกฎหมาย
ดังนั้น ผู้รับเหมาไม่ได้ทำงานบนความเชื่อหรือพลังงานที่มองไม่เห็น แต่ทำงานบนพื้นฐานของความเป็นจริง วัดได้ ชั่งได้ และคำนวณได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อมีชินแสเข้ามาเกี่ยวข้อง หลายครั้งผู้อ่านอาจจะเคยพบว่าผู้รับเหมามักจะมีปัญหากับชินแสอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นปัญหาที่ค่อนข้างหนักใจสำหรับเจ้าของบ้าน
ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ความเชื่อ” และ “หลักการ” เดินมาคนละเส้นทาง หากไม่มีการพูดคุยที่ดีระหว่างชินแส ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน สุดท้ายแล้วอาจไม่มีใครพอใจ และงานก่อสร้างอาจล่าช้า หรือมีค่าใช้จ่ายบานปลาย
เจ้าของบ้านคือผู้ตัดสินใจคนสุดท้าย
สิ่งสำคัญคือการเปิดใจรับฟังทุกฝ่าย และใช้วิจารณญาณโดยพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือกอย่างรอบคอบ การยึดมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านอื่น อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในระยะยาวไดด้
การประสานงานที่ดีคือคำตอบ
บางกรณี สถาปนิกที่ออกแบบบ้านจะเป็นผู้ประสานกลางระหว่างชินแสกับผู้รับเหมา โดยนำข้อแนะนำของทั้งสองฝ่ายมาปรับเป็นแบบแปลนที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่โครงสร้างและความเชื่อ เพื่อให้งานก่อสร้างเดินหน้าต่อได้โดยไม่มีข้อขัดแย้งใหญ่เกิดขึ้น
ซึ่งส่วนมากในปัจจุบัน เจ้าบ้านหลายท่านก็มีการดูเรื่องฮวงจุ้ยตามความเชื่อแต่ละบุคคล และมักจะแก้ไขปัญหาหรือได้รับคำแนะนำจากผู้รับเหมาด้วยการให้ชินแสช่วยแนะนำตั้งแต่การออกแบบบ้าน ขั้นตอนนี้ทางฝ่ายสถาปนิกเองก็จะช่วยแนะนำพร้อมทั้งพูดคุยถึงงความเป็นไปได้หากมีการสร้างจริง ๆ ซึ่งตรงนี้มันก็ยังอยู่ในโปรแกรม สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด ทำให้ฝ่ายเจ้าบ้านเองก็รู้สึกสบายใจ ฝั่งผู้รับเหมาเองก็สะดวกในการทำงานโดยที่ไม่ต้องแก้ภายหลังด้วย เพราะหากคุยกับจบตั้งแต่การออกแบบ เรื่องการก่อสร้างก็ไม่ใช่ปัญหา อีกทั้งเป็นเรื่องที่วินวินกันทั้งคู่ด้วย
ความเข้าใจคือกุญแจสำคัญ
ในสังคมไทยที่ผสานทั้งความเชื่อดั้งเดิมกับวิทยาการสมัยใหม่ การเปิดใจให้ศาสตร์ทั้งสองอยู่ร่วมกันได้ คือสิ่งที่สะท้อนความเป็นปัจจุบันของการสร้างบ้านอย่างมีสติ รอบคอบ และตอบโจทย์ทั้งจิตใจและโครงสร้าง
สรุป
การสร้างบ้านในยุคนี้ไม่ใช่เพียงแค่การหาวัสดุหรือเลือกแบบบ้านที่สวยงาม แต่ยังรวมถึงการจัดการกับความเชื่อ ความรู้สึก และความคาดหวังของเจ้าของบ้านด้วย ชินแสในฐานะตัวแทนของศาสตร์ฮวงจุ้ย และผู้รับเหมาในฐานะผู้ปฏิบัติงานตามหลักวิศวกรรม สามารถไปด้วยกันได้ หากมีการสื่อสารที่ดี ความยืดหยุ่น และการเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน
บ้านที่ดีจึงไม่ได้เกิดจากการเลือกข้างใดข้างหนึ่ง แต่เกิดจากการผสมผสานองค์ความรู้ที่หลากหลายอย่างเหมาะสม และเข้าใจว่าทุกฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกันคือ “การสร้างบ้านที่น่าอยู่ ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความสุข”