แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

สำหรับคนที่สร้างบ้านมาสักพักแล้วตัวบ้านก็ต้องเริ่มผ่านลมผ่านฝนมาอย่างยาวนาน รวมถึงยังโดนกาลเวลากัดกร่อนทำให้บ้านเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงและอาจจะไม่ได้สวยเหมือนกับตอนสร้างใหม่ๆ คราวนี้ก็ถึงเวลาของหลายคนที่อยากจะซ่อมบำรุง ดูแลบ้านให้กลับมาใหม่เอี่ยมสวยงามด้วยการ “รีโนเวท” บ้าน ในการรีโนเวทบ้านนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่คิดจะทำ เรามาดูดีกว่าว่าถ้าอยากรีโนเวทบ้านแล้วเราจะต้องเตรียมอะไรบ้าง

การรีโนเวทบ้านคืออะไร

การรีโนเวทบ้านคือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง การออกแบบ หรือฟังก์ชันการทำงานของบ้านอย่างมีนัยสำคัญ อาจมีตั้งแต่การปรับปรุงรูปลักษณ์เล็กน้อย เช่น การทาสีและพื้นใหม่ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น การเพิ่มห้อง การปรับปรุงห้องครัวและห้องน้ำ หรือแม้แต่การรื้อและสร้างใหม่ทั้งส่วนของบ้าน เป้าหมายของการปรับปรุงมักจะเป็นการปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัย เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน หรือทำให้บ้านสะดวกสบายและใช้งานได้มากขึ้นสำหรับผู้พักอาศัย เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้น

อยากจะรีโนเวทบ้าน เตรียมอะไรบ้าง

ในการรีโนเวทบ้านก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องมีการเตรียมตัวและคิดก่อนว่าเราต้องการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอะไรในบ้านบ้าง เพื่อให้มันออกมาตรงใจและเป็นไปตามความต้องการของเรามากที่สุด

1. ต้องการรีโนเวทส่วนใดบ้าง

สิ่งแรกที่เราควรทำเลยก็คือลองตรวจสอบดูก่อนว่าเราต้องการรีโนเวทบ้านในส่วนใดบ้าง เพื่อให้เรากำหนดขอบเขตของการทำงานได้อย่างถูกต้อง รวมถึงยังประเมินงบประมาณในการรีโนเวทบ้านเบื้องต้นได้อีกด้วย และในการรีโนเวทมันก็ไม่ได้หมายถึงเราต้องปรับปรุงใหม่ทั้งบ้าน แต่เราเลือกที่จะปรับปรุงบางส่วนได้ เช่น ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน ฯลฯ ตัวอย่างเป้าหมายในการรีโนเวทเช่น

– บ้านเริ่มทรุดโทรม สำหรับบ้านที่สร้างมานานแล้วอาจจะพบปัญหาเรื่องโครงสร้างและเกิดความเสียหายกับตัวบ้านขึ้น อาจจะรีโนเวทเพื่อปรับปรุงโครงสร้างและให้บ้านมีความแข็งแรงเช่นเดิม

– เพิ่มความสะดวกในบ้าน บางครั้งรีโนเวทบ้านก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีบางสิ่งบางอย่างในบ้านเสียหายเท่านั้น แต่หากพื้นที่ใช้สอยในบ้านไม่สอดคล้องกับการใช้งานเราก็สามารถรีโนเวทได้ด้วยเช่นกัน

– เพิ่มจำนวนห้อง บางคนอาจจะต้องการห้องเพิ่มเติมเพื่อใช้ทำสิ่งต่างๆ ตามความเหมาะสมของตนเอง อย่างบางเคสที่บ้านเพื่อนการช่างเคยเข้าไปดูแลคือแบ่งพื้นที่ชั้น 1 ของบ้านบางส่วนให้กลายเป็นพื้นที่ไลฟ์สดขายสินค้า พร้อมกับติดผนังกันเสียงและปรับปรุงเรื่องไฟให้มีความสว่างขึ้น

– ซ่อมในส่วนที่เสียหาย ความเสียหายของบ้านบางครั้งมันไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป บางทีอาจจะมาจากห้องน้ำที่น้ำรั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว ฯลฯ

– เปลี่ยนบรรยากาศของบ้าน บางคนอาจจะซื้อบ้านมือสองมาแล้วต้องการตกแต่งบ้านใหม่ โดยอาจจะมีคอนเซปต์ที่ตัวเองชอบเช่น อยากได้บ้านที่ตกแต่งภายในแบบสไตล์ลอฟท์ อยากให้บ้านเป็นสไตล์มินิมอล เป็นต้น

2. เตรียมแบบที่ต้องการ

ในการรีโนเวทแต่ครั้งแน่นอนว่ามันก็ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้น รวมถึงสไตล์การปรับปรุงบ้านด้วย ซึ่งหากเป็นการรีโนเวทเพื่อบำรุงโครงสร้างเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ต้องมีต้นแบบหรือรูปแบบอะไรเพื่อปรึกษากับนักออกแบบก็ได้

แต่หากคุณต้องการปรับปรุงพวกห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้สอยในบ้านอาจจะต้องลองค้นหาแบบที่คุณชอบ สไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ เพื่อที่จะได้นำไปคุยกับสถาปนิกในการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้เวลาเราได้แบบรีโนเวทที่เราต้องการแล้วจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้องและเป็นไปตามความต้องการ

ใครที่กำลังหาข้อมูลเรื่องการออกแบบบ้าน ลองอ่านบทความ “ก่อนออกแบบบ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง” นี้ได้เลย

3. ตรวจสอบส่วนอื่นๆ ของบ้านเพิ่มเติม

ในช่วงที่เราต้องการรีโนเวทบ้าน บางส่วนของบ้านอาจจะต้องได้รับการบำรุงดูแลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นพวกระบบปะปา ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งพวกวัสดุที่ใช้สำหรับสร้างบ้านเดิมที่อาจจะมีการเสื่อมสภาพแล้ว ดังนั้นเราสามารถตรวจสอบเองเบื้องต้นได้ และหากพบเจอส่วนที่เสียหายและต้องการปรับปรุงเพิ่มเติมก็สามารถทำลิสต์เอาไว้คุยกับทีมสถาปนิกหรือช่างเพื่อให้ช่วยดูแลเพิ่มเติมได้

4. สรุปสิ่งที่ต้องการทั้งหมด

หากเราสามารถระบุความต้องการในการรีโนเวทบ้านได้แล้วนั้น ทางบ้านเพื่อนแนะนำว่าให้คุณทำ List เอาไว้ว่าต้องการปรับปรุงส่วนใด แบบไหน รูปแบบใด บ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบของตัวคุณเอง รวมถึงเวลาเราไปคุยเรื่องการออกแบบกับสถาปนิกหรือมัณฑนากรเราจะได้รู้ด้วยว่าจุดไหนที่เราต้องการปรับปรุง

นอกจากนี้การที่คุณทำลิสต์ที่ต้องการรีโนเวทเอาไว้มันก็ช่วยให้คุณประเมินงบประมาณที่จะต้องใช้ในการรีโนเวทได้ง่ายมากขึ้นด้วย หากเกินงบหรือมันสูงเกินความจำเป็นเราจะได้ปรับลดลง หรืออาจจะไปคุยกับผู้รับเหมาในการให้เค้าช่วยปรับปรุงหรือนำเสนอวัสดุ แนวทางในการปรับปรุงเพื่อให้อยู่ในงบประมาณที่คุณมีก็ได้เหมือนกัน อย่างบ้านเพื่อนเองก็รับปรึกษาเรื่องการรีโนเวทให้กับคุณได้

แนะนำบทความ 5 สิ่งที่ต้องระวังเมื่อคุณจะต้องปรับปรุงบ้าน

5. เลือกสรรผู้รับเหมาเพื่อให้ช่วยในการรีโนเวท

สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายเจ้า อันนี้เพื่อนๆ อาจจะต้องไปหาข้อมูลเอาเพราะแอดขอไม่ลงรายละเอียดไว้ให้ หากเพื่อนๆ อยู่ในช่วงระหว่างการตัดสินใจนั้นอาจจะลองให้พวกเค้าดูแบบการรีโนเวทหรือช่วยแนะนำการรีโนเวทก่อนก็ได้ อย่างบ้านเพื่อนการช่างเองก็มีบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและการรีโนเวทบ้านด้วยเหมือนกัน พร้อมทั้งมีการดูแลให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อนเริ่มรีโนเวทไปจนกระทั่งหลังรีโนเวทเสร็จแล้ว นอกจากนึ้คุณยังติดตามการทำงานได้แบบ Real – Time อีกด้วย

การรีโนเวทบ้านต้องรู้กฎหมายด้วย

การรีโนเวทบ้านไม่ใช่ว่าเราอยากทำก็จะทำได้เลย แต่หากเป็นการรีโนเวทบ้านประเภทการทาสีบ้านใหม่ เปลี่ยนสีผนัง เปลี่ยนพื้นภายในบ้าน หรืออะไรที่ไม่ได้ส่งผลกระทบจนเกิดความเดือดร้อนกับเพื่อนบ้านอันนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปขออนุญาต แต่ถ้าหากว่าเป็นการปรับปรุงรีโนเวทจำพวกต่อเติมบ้าน ต่อเติมคาน เพิ่มห้องนอกเหนือจากแบบบ้านเดิม หรืออะไรที่ส่งผลกระทบใหญ่ต่อลักษณะบ้านเดิมอันนี้คุณจะต้องทำการขออนุญาตก่อน เพราะถ้าหากไม่ได้ขออนุญาตแล้วทำการรีโนเวทไปแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเจอย้อนตรวจสอบทีหลังอาจจะถูกสั่งให้รื้อถอนหรือเกิดเป็นคคีความก็ได้

หากต้องการรีโนเวทบ้านจริงๆ คุณอาจจะปรึกษากับเหล่าผู้รับเหมาและสถาปนิกก่อนการเริ่มรีโนเวทก็ได้เช่นกัน เพราะพวกเค้าจะรู้ข้อกฎหมายและพร้อมลงหน้างานไปดูรายละเอียดในการรีโนเวทให้กับคุณอยู่แล้ว

สรุป

การรีโนเวทบ้านก็ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องทำสำหรับคนที่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะมีจุดมุ่งหมายในการปรับปรุงตัวบ้านให้น่าอยู่ เพิ่มพื้นที่ในการใช้สอย หรือรีโนเวทบ้านเพื่อการขาย ก็ควรจะต้องมีการระบุก่อนว่าเราจะต้องรีโนเวทบ้านส่วนใดบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานของทีมผู้รับเหมา สถาปนิก หรือแม้กระทั่งง่ายต่อการตรวจสอบของคุณเองด้วย หากคุณไม่ถนัดในด้านนี้เลยอาจจะต้องหาทีมงานเพื่อขอคำปรึกษาจากพวกเค้าก็ได้เช่นกัน


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย