การสร้างบ้านเป็นการลงทุนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อปล่อยขายต่อในอนาคต...
8 ชนิดของไม้ยอดนิยมที่มักจะเอามาทำเฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์ไม้มีเสน่ห์ที่ยากจะหาใครเทียบได้ ทั้งความสวยงามตามธรรมชาติ ความคงทน และเอกลักษณ์ของลายไม้ที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นดูมีชีวิตชีวา แต่ละชนิดของไม้ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ความทนทานต่อความชื้นและแมลง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลต่อการใช้งานและดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับไม้ 8 ชนิดยอดนิยมที่นิยมนำมาใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ พร้อมทั้งข้อดี ข้อเสีย และชนิดเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับไม้แต่ละชนิด
ก่อนจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องรู้อะไรบ้าง
- สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
1. ไม้สัก (Teak)
ไม้สักเป็นไม้เนื้อแข็งที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานและทนต่อความชื้นสูง มีน้ำมันธรรมชาติในตัวที่ช่วยป้องกันการผุกร่อนและการซึมของน้ำ ซึ่งทำให้ไม้สักเป็นที่นิยมในการทำเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เนื้อไม้สักยังให้ลวดลายและสีสันที่สวยงาม ตั้งแต่สีน้ำตาลทองไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
ข้อดีของไม้สัก
- แข็งแรงและทนทานมาก ไม่บิดเบี้ยวง่าย
- มีน้ำมันธรรมชาติช่วยป้องกันความชื้น แมลง และเชื้อรา
- สีสันสวยงามคลาสสิกและดูมีราคา
ข้อเสียของไม้สัก
- ราคาสูงเนื่องจากคุณภาพดีและหาได้ยาก
- น้ำหนักค่อนข้างมาก อาจไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
เหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง เช่น โต๊ะสนาม เก้าอี้นั่งเล่นกลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งพื้นไม้และประตู อีกทั้งยังนิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านอย่างเช่น ตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะอาหาร และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน
หรือให้เห็นภาพง่ายๆ ลองนึกถึงพวกที่นั่งหรือเตียงไม้สักก็ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ของหลายๆ คนชอบเป็นอย่างมาก และไม้สักก็นิยมเอามาทำเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน
2. ไม้โอ๊ค (Oak)
ไม้โอ๊คเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานและสีสันที่อบอุ่นคลาสสิก มีสีตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม ลายไม้โอ๊คมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นที่นิยมในเฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรปและเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ
ข้อดีของไม้โอ๊ค
แข็งแรงทนทาน ทนต่อการขีดข่วนและแรงกระแทก
มีสีและลวดลายที่ดูเป็นธรรมชาติและหรูหรา
สามารถปรับเข้ากับสไตล์เฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย
ข้อเสียของไม้โอ๊ค
ราคาค่อนข้างสูง และมีน้ำหนักมาก
หากมีความชื้นสูง อาจทำให้ไม้โอ๊คขยายตัว
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
นิยมใช้ทำโต๊ะทานข้าว ตู้วางของ พื้นไม้เนื้อแข็ง หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขก ไม้โอ๊คเหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความทนทานและการใช้งานในระยะยาว เช่น ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางหนังสือ
3. ไม้เมเปิ้ล (Maple)
ไม้เมเปิ้ลเป็นไม้ที่มีเนื้อแน่น สีขาวอมเหลืองอ่อน ให้ความรู้สึกสว่างและสดใส เนื้อไม้เมเปิ้ลเรียบเนียน จึงเหมาะสำหรับการเคลือบเงาและการพ่นสี ซึ่งช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ดูสวยงามทันสมัย
ข้อดีของไม้เมเปิ้ล
เนื้อไม้แน่นและเรียบเนียน เหมาะกับการทำพื้นผิวที่มันเงา
ทนทานต่อการเสียดสีและการใช้งานหนัก
สีสว่าง ให้บรรยากาศอบอุ่นแก่ห้อง
ข้อเสียของไม้เมเปิ้ล
หากโดนแสงแดดเป็นเวลานาน อาจทำให้สีของไม้เมเปิ้ลเปลี่ยนไป
ต้องการการจัดเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเทดีเพื่อป้องกันเชื้อรา
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
ไม้เมเปิ้ลมักใช้ทำโต๊ะทานข้าว เคาน์เตอร์ครัว หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวและห้องทานอาหาร นอกจากนี้ยังเหมาะกับการทำตู้และชั้นวางของที่ต้องการพื้นผิวเรียบเงาและทนทาน
4. ไม้วอลนัท (Walnut)
ไม้วอลนัทเป็นไม้ที่มีสีเข้มและลวดลายที่สวยงามเด่นชัด สีของไม้วอลนัทมีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้มจนถึงสีเกือบดำ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้วอลนัทดูหรูหราและมีเสน่ห์ มีความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อแรงกระแทกได้ดี
ข้อดีของไม้วอลนัท
- ลวดลายสวยงามและหรูหรา มีสีที่เข้มโดดเด่น
- ทนต่อแรงกระแทกและใช้งานหนักได้ดี
- เพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ตกแต่งภายใน
ข้อเสียของไม้วอลนัท
ราคาแพงและหาได้ยากในบางพื้นที่
สีอาจจางเมื่อสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
นิยมนำไปทำโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ เตียง ตู้ทีวี หรือเฟอร์นิเจอร์ห้องนั่งเล่นที่ต้องการความหรูหราและแข็งแรง อีกทั้งยังใช้กับเครื่องประดับภายใน เช่น กล่องเครื่องประดับ และถาดไม้
บทความแนะนำจากบ้านเพื่อน
-

10 ต้นไม้มงคล ปลูกแล้วรวย ปลูกแล้วดี เสริมดวง เรียกทรัพย์
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลยแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
-

10 วิธีทำให้บ้านเย็นสบายสู้กับอากาศร้อน
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลยแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
-

10 วิธีลดกลิ่นอับภายในบ้าน ให้บ้านสดชื่นอีกครั้ง
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลยแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย
5. ไม้มะฮอกกานี (Mahogany)
ไม้มะฮอกกานีมีสีแดงน้ำตาลเข้มที่ดูสง่างาม เนื้อไม้มีความละเอียด มีความแข็งแรงทนทานและมีความทนทานต่อเชื้อราและแมลง จึงเป็นที่นิยมในการทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความหรูหราและคงทน
ข้อดีของไม้มะฮอกกานี
สีแดงน้ำตาลเข้มให้ความหรูหราและมีระดับ
ทนทานต่อเชื้อราและแมลง
ลวดลายละเอียดและสวยงาม ดูมีค่า
ข้อเสียของไม้มะฮอกกานี
ราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากความหายาก
ต้องการการดูแลรักษาเพื่อคงความสวยงามของสีและความเงางาม
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
ไม้มะฮอกกานีนิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์หรู เช่น โต๊ะทานข้าว ตู้เสื้อผ้า ตู้โชว์ และเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องรับแขก นอกจากนี้ยังเหมาะกับการทำประตูไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรง
6. ไม้สน (Pine)
ไม้สนเป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีลวดลายธรรมชาติสวยงาม สีเหลืองอ่อนสดใส น้ำหนักเบา และราคาไม่แพง จึงเป็นที่นิยมสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน ไม้สนเป็นวัสดุที่ดีสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ
ข้อดีของไม้สน
- ราคาไม่แพง น้ำหนักเบา
- หาได้ง่ายและลวดลายสวยงามตามธรรมชาติ
- เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความเบาและตกแต่งง่าย
ข้อเสียของไม้สน
- เนื้อไม้อ่อน ทำให้เกิดรอยขีดข่วนง่าย
- ไม่ทนต่อความชื้นและอาจเกิดการบวมในที่ชื้น
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
เหมาะกับการทำตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน ชั้นวางของ เตียงนอน และเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนหรือห้องเด็ก นอกจากนี้ยังใช้เป็นวัสดุในการทำประตูและโครงสร้างห้องได้เช่นกัน
7. ไม้แอช (Ash)
ไม้แอชเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น น้ำหนักเบากว่าไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ และมีลวดลายสวยงาม โทนสีอ่อนของไม้แอชช่วยเพิ่มความสดใสให้กับห้อง นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบสมัยใหม่และร่วมสมัย
ข้อดีของไม้แอช
- แข็งแรง ยืดหยุ่น และมีน้ำหนักเบา
- ลวดลายไม้สวยงาม เพิ่มความสดใสให้กับพื้นที่
- ทนต่อแรงกระแทกได้ดี
ข้อเสียของไม้แอช
- ไม่ทนต่อความชื้นมากนัก อาจเกิดการบวมในที่มีความชื้นสูง
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
ไม้แอชมักใช้ทำเก้าอี้ โต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในที่เน้นการออกแบบที่ดูทันสมัยและอ่อนโยน
8. ไม้เชอร์รี่ (Cherry)
ไม้เชอร์รี่เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีแดงเข้มและความเงางามเป็นเอกลักษณ์ มีลวดลายไม้ละเอียดสวยงาม ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เชอร์รี่ดูหรูหราและมีความเป็นธรรมชาติ
ข้อดีของไม้เชอร์รี่
- สีสันและลวดลายสวยงาม เหมาะกับการตกแต่งที่ดูหรูหรา
- เนื้อไม้แข็งแรงและทนทาน
- เพิ่มมูลค่าให้เฟอร์นิเจอร์อย่างมีระดับ
ข้อเสียของไม้เชอร์รี่
- มีราคาแพง
- ต้องการการดูแลรักษาเพื่อรักษาสีและความเงางาม และอาจเปลี่ยนสีเมื่อโดนแสงแดด
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้
ไม้เชอร์รี่นิยมใช้ทำโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ โต๊ะทานข้าว และเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนที่ต้องการความหรูหราและดูสวยงาม รวมถึงใช้เป็นวัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น
สรุป
การเลือกใช้ไม้ในการทำเฟอร์นิเจอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการได้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ หากต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ทนทานและสวยงามตลอดการใช้งาน ไม้เนื้อแข็งอย่างไม้สัก ไม้โอ๊ค และไม้วอลนัทเป็นตัวเลือกที่ดี ในขณะที่ไม้สนและไม้แอชเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการน้ำหนักเบาและราคาไม่สูงนัก การดูแลรักษาไม้ที่ถูกต้องยังช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความสวยงามให้กับเฟอร์นิเจอร์ได้อีกยาวนาน




















