แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

บ้านทรุดเป็นปัญหาที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเผชิญ โดยอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งทางธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์ ปัญหานี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม บ้านที่เกิดการทรุดตัวอาจมีรอยแตกร้าว พื้นบ้านเอียง หรือเสาบ้านเอียง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน บ้านอาจเสี่ยงต่อการพังทลายลงมาได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของบ้านทรุด วิธีการสังเกตอาการ และแนวทางการป้องกันและแก้ไขจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านควรใส่ใจ

บ้านทรุดคืออะไร ?

บ้านทรุดหมายถึงภาวะที่โครงสร้างของบ้านหรืออาคารเกิดการทรุดตัวลงจากระดับเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้บ้านเกิดรอยร้าว ผนังเอียง พื้นบ้านไม่เสมอกัน หรือโครงสร้างบ้านบิดเบี้ยว ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับบ้านทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียม หากไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้อยู่อาศัย ซึ่งก็เคยมีเคสที่บ้านส่งสัญญาณอาการทรุดมาแต่เจ้าของไม่ได้ทำการแก้ไข จนสุดท้ายบ้านก็ถล่มเกือบครึ่งหลังก็มี

สาเหตุของการเกิดบ้านทรุด

ปัจจัยที่ทำให้บ้านทรุดสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือปัจจัยทางธรรมชาติและปัจจัยที่เกิดจากมนุษย์ โดยสามารถอธิบายสาเหตุการเกิดบ้านทรุดคร่าวๆ ได้ดังนี้

ปัจจัยบ้านทรุดจากธรรมชาติ

ปัจจัยทางธรรมชาติที่ส่งผลให้บ้านทรุดได้แก่คุณสมบัติของดิน ดินบางประเภท เช่น ดินเหนียวหรือดินทราย มีแนวโน้มที่จะยุบตัวเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของความชื้น ดินอ่อนที่ไม่แข็งแรงพออาจไม่สามารถรับน้ำหนักบ้านได้ ทำให้เกิดการทรุดตัวของบ้าน นอกจากนี้ ระดับน้ำใต้ดินที่เปลี่ยนแปลงยังมีผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน หากระดับน้ำใต้ดินลดลงมาก อาจทำให้ดินเกิดการหดตัวและบ้านทรุดลงไปได้

อีกทั้งแผ่นดินไหวยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สามารถทำให้บ้านทรุดได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง การสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวสามารถทำให้ดินเคลื่อนตัวและส่งผลให้บ้านเกิดการทรุดตัว น้ำท่วมและการกัดเซาะของดินก็เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อดินถูกชะล้างออกไปจากฐานรากของบ้าน อาจทำให้เกิดช่องว่างใต้ฐานบ้านและนำไปสู่การทรุดตัวได้

ปัจจัยบ้านทรุดจากมนุษย์

ในส่วนของปัจจัยที่เกิดจากมนุษย์ การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้บ้านทรุด หากมีการใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่มีการคำนวณโครงสร้างอย่างถูกต้อง บ้านอาจเกิดการทรุดตัวเร็วขึ้น การต่อเติมบ้านโดยไม่มีการเสริมโครงสร้างที่เหมาะสมก็สามารถทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการต่อเติมอาจทำให้ฐานรากของบ้านรับน้ำหนักไม่ไหวและเกิดการทรุดตัว

การขุดเจาะหรือถมดินผิดวิธีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บ้านทรุด หากมีการขุดดินใกล้กับฐานรากบ้านหรือมีการถมดินโดยไม่ได้ปรับหน้าดินให้แน่น อาจทำให้ดินทรุดตัวลงมาได้ นอกจากนี้ระบบท่อประปารั่วซึมก็สามารถส่งผลให้บ้านทรุดได้เช่นกัน เพราะน้ำที่รั่วจากท่อประปาสามารถชะล้างดินใต้ฐานรากของบ้าน ทำให้ดินอ่อนตัวและเกิดการทรุดตัวขึ้นได้ ในกรณีที่มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่หรือมีการใช้เครื่องจักรหนักในบริเวณใกล้เคียง การสั่นสะเทือนจากกิจกรรมเหล่านี้สามารถทำให้ดินรอบบ้านทรุดตัวลงไปได้

วิธีสังเกตอาการของบ้านทรุด

การสังเกตอาการของบ้านทรุดตั้งแต่ระยะแรกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันความเสียหายร้ายแรง บ้านที่กำลังทรุดมักมีสัญญาณเตือนที่สามารถสังเกตได้ เช่น รอยร้าวที่ผนัง หากรอยร้าวมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าบ้านกำลังทรุด

พื้นบ้านหรือกระเบื้องแตกร้าวก็เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการทรุดตัวของบ้าน หากพบว่าพื้นบ้านมีรอยร้าวหรือพื้นไม่เรียบ อาจเป็นเพราะดินด้านล่างเกิดการยุบตัว นอกจากนี้ หากประตูและหน้าต่างปิดไม่สนิท หรือเริ่มติดขัดโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจเป็นเพราะโครงสร้างของบ้านเกิดการบิดเบี้ยวจากการทรุดตัว

เสาบ้านเอียงหรือแตกร้าวเป็นสัญญาณที่ต้องระวังอย่างมาก เพราะเสาถือเป็นโครงสร้างหลักของบ้าน หากเสาเกิดการเอียง อาจหมายถึงการทรุดตัวของฐานราก ผนังบ้านแยกออกจากโครงสร้างหลักก็เป็นอีกสัญญาณที่ควรให้ความสำคัญ หากพบว่ามีช่องว่างระหว่างผนังกับพื้นหรือคาน ควรรีบตรวจสอบว่ามีการทรุดตัวของบ้านหรือไม่ หรือถ้าหากคุณไม่มั่นใจว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณร้ายแรงแค่ไหน ก็สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบได้เหมือนกัน

แนวทางการแก้ไขและป้องกันบ้านทรุดเบื้องต้น

หากบ้านทรุดไม่รุนแรง สามารถใช้วิธีการเสริมฐานรากด้วยเสาเข็มเพื่อเพิ่มความมั่นคงของโครงสร้างได้ ในกรณีที่พื้นบ้านทรุดตัว สามารถใช้วิธีการปรับปรุงดินใต้ฐานราก เช่น การฉีดปูนซีเมนต์หรือโฟมพิเศษเข้าไปใต้พื้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ถ้าหากบ้านทรุดหนัก อาจต้องใช้แม่แรงยกบ้านขึ้นแล้วเสริมโครงสร้างใหม่ให้มั่นคงขึ้น

เพื่อป้องกันปัญหาบ้านทรุด ควรศึกษาสภาพดินก่อนสร้างบ้าน และเลือกพื้นที่ที่มีดินแข็งแรง พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา การเลือกใช้เสาเข็มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรใช้เสาเข็มที่มีความยาวเพียงพอเพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักของตัวบ้านได้ดี การป้องกันการรั่วซึมของระบบท่อประปาโดยการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบท่อเป็นประจำก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดโอกาสเกิดบ้านทรุดได้

หากต้องถมดินใหม่ ควรให้วิศวกรช่วยคำนวณโครงสร้างและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการถมดินทำอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและเกิดความอันตรายต่อตัวบ้านของคุณ

แน่นอนว่าทุกวิธีการไม่สามารถใช้ได้กับทุกบ้าน เพราะด้วยสภาพแวดล้อมหรือสภาพดินที่แตกต่างกันทำให้ต้องมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้เชี่ยวชาญประเมินแล้ววิธีไหนจะเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาให้กับบ้านของคุณได้มากที่สุด

สรุป

บ้านทรุดเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีการสังเกตอาการ และแนวทางการแก้ไขสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ เจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบบ้านเป็นประจำ และหากพบสัญญาณของบ้านทรุด ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้บ้านยังคงมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยสำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาว


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย