ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หลายคนเริ่มมองหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ การปลูกต้นไม้ที่สามารถช่วยดักฝุ่นและฟอกอากาศ
ต้นไม้บางชนิดมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก และยังช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านหรือที่ทำงานสดชื่นขึ้น การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นและสารพิษในอากาศได้จริง วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ “7 ต้นไม้ดักฝุ่น” ที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยกรอง PM2.5 ถึงแม้ว่าจะกรองไม่ได้ 100% แต่อย่างน้อยต้นไม้เหล่านี้ก็ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้ดีพอสมควรเลย
7 ต้นไม้ดักฝุ่น ช่วยกรอง PM2.5 เพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้บ้านคุณ
1. ลิ้นมังกร (Snake Plant)

ภาพจาก : ELLEDECOR
ลิ้นมังกร เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะดูแลง่ายและมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ดีเยี่ยม ใบของลิ้นมังกรมีพื้นผิวเป็นคลื่นเล็กๆ ซึ่งสามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 ได้
อีกทั้งต้นลิ้นมังกรยังเป็นพืชที่สามารถปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน แตกต่างจากต้นไม้ส่วนใหญ่ที่มักจะปล่อยออกซิเจนเฉพาะตอนกลางวัน ทำให้เหมาะสำหรับการปลูกไว้ในห้องนอนเพื่อช่วยให้อากาศบริสุทธิ์และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
วิธีดูแลต้นลิ้นมังกร
- ควรรดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพราะเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก
- สามารถปลูกในที่แสงแดดรำไรหรือในที่ร่มได้
- ไม่ต้องใส่ปุ๋ยบ่อย เพียงใส่ปุ๋ยปีละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ
บทความแนะนำจากบ้านเพื่อน
2. เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant)

ภาพจาก : The Spruce
เศรษฐีเรือนใน เป็นไม้แขวนที่มีใบเรียวยาวลายเขียวสลับขาว มีความสามารถในการดูดซับสารพิษจากอากาศได้ดี โดยเฉพาะสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบได้บ่อยในบ้านเรือน
ใบของเศรษฐีเรือนในสามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 ได้เป็นอย่างดี ช่วยลดปริมาณฝุ่นในบ้านให้น้อยลง
วิธีดูแลต้นเศรษฐีเรือนใน
- ควรรดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- วางในที่มีแสงแดดรำไรหรือในบ้านที่มีแสงส่องถึง
- ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้งเพื่อให้ต้นไม้แข็งแรง
3. เดหลี (Peace Lily)

ภาพจาก : The Spruce
เดหลี หรือ เดหลีขาว เป็นไม้ดอกที่มีความสามารถในการดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี และยังช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ต้นเดหลียังสามารถช่วยลดสารพิษอย่างแอมโมเนีย เบนซิน และฟอร์มาลดีไฮด์ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับปลูกในบ้านและอาคารสำนักงาน
วิธีดูแลต้นเดหลี
- ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้น แต่ไม่แฉะจนเกินไป
- ควรปลูกในที่ร่มหรือแสงแดดรำไร
- เช็ดใบเป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นที่เกาะบนใบ
4. ไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig)

ภาพจาก : Woodie Garaden Goods
ไทรใบสักเป็นหนึ่งในต้นไม้ยอดนิยมที่ใช้ในการตกแต่งบ้านและสำนักงาน ด้วยใบขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และรูปทรงสวยงาม ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนรักต้นไม้ นอกจากความสวยงามแล้ว ไทรใบสักยังมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศ
ใบของไทรใบสักมีพื้นผิวกว้างและหนา ซึ่งช่วยให้ฝุ่นละออง รวมถึง PM2.5 สามารถตกลงมาเกาะบนใบได้ง่ายขึ้น เมื่อฝุ่นจับตัวกันบนใบ ก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกได้ ทำให้ลดปริมาณฝุ่นในบ้านได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เนื่องจากต้นไทรใบสักเป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่าต้นไม้ดักฝุ่นอื่นๆ จึงต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับตั้งไว้ในห้องรับแขก มุมห้อง หรือมุมทำงานเพื่อสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและช่วยให้อากาศภายในห้องบริสุทธิ์ขึ้น
วิธีดูแลต้นไทรใบสัก
- ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดปานกลาง
- รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำบ่อยเกินไป
- เช็ดใบเป็นประจำเพื่อช่วยลดฝุ่นสะสม
5. พลูด่าง (Golden Pothos)

ภาพจาก : Plant Care For Beginner
พลูด่างเป็นต้นไม้เลื้อยที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการต้นไม้ช่วยฟอกอากาศโดยไม่ต้องดูแลมาก ต้นพลูด่างสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในดินและในน้ำ ทำให้สามารถปลูกได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นใส่กระถาง ตั้งไว้บนโต๊ะ หรือแขวนไว้เป็นไม้เลื้อย
ใบของพลูด่างมีลักษณะมันวาวและมีลายด่างสีขาวหรือเหลือง ทำให้สามารถดูดซับฝุ่นละอองในอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน และคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มักพบในอาคารสำนักงาน
เนื่องจากพลูด่างเป็นไม้เลื้อย จึงสามารถปลูกให้เลื้อยลงจากชั้นวางของ หรือให้ไต่ขึ้นตามโครงไม้เพื่อสร้างความสวยงามภายในบ้าน
วิธีดูแลต้นพลูด่าง
- รดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- วางในที่มีแสงรำไร หรือปลูกในห้องที่มีแสงธรรมชาติส่องถึง
- ตัดแต่งใบเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตดี
6. ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)

ภาพจาก : Southern Living
ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่หลายคนรู้จักดีในด้านสรรพคุณทางยาและความงาม แต่รู้หรือไม่ว่ามันยังมีความสามารถในการช่วยกรองอากาศและดักจับฝุ่นอีกด้วย? ใบของว่านหางจระเข้มีลักษณะหนาและอวบน้ำ ช่วยดูดซับฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 ได้ดี
นอกจากการดักจับฝุ่นแล้ว ว่านหางจระเข้ยังมีความสามารถในการดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์และเบนซิน ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปลูกไว้ในบ้านหรือสำนักงาน
อีกข้อดีของว่านหางจระเข้คือมันสามารถดูแลรักษาได้ง่ายมาก ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และสามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดปานกลางถึงน้อย
วิธีดูแลว่านหางจระเข้
- ปลูกในที่มีแดดรำไร
- รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ใช้ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี
7. ปาล์มไผ่ (Areca Palm)

ภาพจาก : Rogue Home
ปาล์มไผ่เป็นต้นไม้ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้เป็นต้นไม้ฟอกอากาศ เนื่องจากมันสามารถช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศและดูดซับฝุ่นละอองได้ดี
ใบของปาล์มไผ่มีลักษณะเป็นเส้นเรียวยาว ทำให้สามารถดักจับฝุ่นและช่วยลดปริมาณ PM2.5 ในบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการดูดซับสารพิษ เช่น แอมโมเนีย ไซลีน และฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มักพบในบ้านและสำนักงาน
ข้อดีอีกอย่างของปาล์มไผ่คือมันสามารถช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับบ้านที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา เพราะอากาศแห้งเกินไปอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองทางเดินหายใจได้ การปลูกปาล์มไผ่ในบ้านจึงช่วยสร้างสมดุลของความชื้นและช่วยให้อากาศสดชื่นขึ้น
วิธีดูแลปาล์มไผ่เบื้องต้น
- วางในที่มีแสงแดดรำไร
- รดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- ใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง
สรุป
การปลูกต้นไม้ที่สามารถช่วยดักฝุ่นและฟอกอากาศเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดปริมาณ PM2.5 ในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้บ้านน่าอยู่ขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณและคนที่คุณรักได้รับอากาศบริสุทธิ์มากขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยได้แบบ 100% ก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ยังช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้ามาถึงเราโดยตรง
ลองเลือกต้นไม้ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมาปลูกดู แล้วคุณจะพบว่าอากาศดีขึ้นได้ แค่มีต้นไม้ดีๆ ในบ้าน