แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

บ้านเป็นมากกว่าสถานที่อยู่อาศัย เพราะเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความทรงจำ และความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัว แน่นอนว่าเมื่อเราลงทุนสร้างหรือซื้อบ้านสักหลัง เราย่อมต้องการให้บ้านของเราสวยงามและคงทนให้นานที่สุด แต่ปัญหาหนึ่งที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเจอคือ ความเสื่อมโทรมจากการใช้งานตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นสีซีด ผนังร้าว หลังคารั่ว หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง

การดูแลบ้านอย่างถูกวิธีจะช่วยให้บ้านอยู่ในสภาพที่ดีได้นานขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และยังทำให้บ้านดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเคล็ดลับการดูแลบ้านแบบครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้าง พื้น ผนัง หลังคา ไปจนถึงสวนและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เพื่อให้บ้านของคุณคงสภาพดีได้นานหลายปี

1. ดูแลโครงสร้างบ้านให้แข็งแรง ไม่ผุพังง่าย

โครงสร้างบ้านเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านแข็งแรงและสามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย หากโครงสร้างบ้านได้รับการดูแลที่ดี จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาแตกร้าว ทรุดตัว หรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร การดูแลโครงสร้างให้แข็งแรงควรเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบรอยร้าว การป้องกันปลวก และการควบคุมความชื้นภายในบ้าน

1.1 ตรวจสอบรอยร้าวของบ้านอย่างสม่ำเสมอ

รอยร้าวเล็ก ๆ บนผนังหรือพื้นอาจดูเหมือนไม่เป็นปัญหา แต่หากปล่อยไว้นาน อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นคงของโครงสร้างบ้าน ควรหมั่นตรวจสอบรอยร้าวทุก ๆ 6 เดือน และหากพบรอยร้าวที่กว้างเกิน 2 มิลลิเมตร ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ

1.2 ป้องกันปลวกและแมลงศัตรูบ้าน

ปลวกเป็นศัตรูตัวฉกาจของบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีโครงสร้างไม้ ควรฉีดน้ำยากันปลวกทุกปี และหมั่นตรวจสอบจุดเสี่ยง เช่น วงกบประตู หน้าต่าง และพื้นไม้ หากพบร่องรอยปลวกกัดกิน ควรรีบกำจัดทันที

1.3 ควบคุมความชื้นภายในบ้าน

ความชื้นนอกจากจะทำให้บ้านของเรามีกลิ่นอับ และส่งผลทำให้เกิดเชื้อราในบ้านและส่งผลต่อสุขภาพของเราแล้ว มันยังเป็นตัวการที่ทำให้ไม้ผุ ปูนแตกร่อนได้เหมือนกัน ควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้นสะสม และใช้เครื่องลดความชื้นในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องใต้ดิน

2. ดูแลพื้นบ้านให้สวยงามและทนทาน

พื้นบ้านเป็นหนึ่งในส่วนที่ได้รับการใช้งานหนักที่สุดในบ้าน เพราะต้องรองรับน้ำหนักของเฟอร์นิเจอร์ การเดินของสมาชิกในครอบครัว รวมถึงสัตว์เลี้ยง หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี พื้นบ้านอาจเกิดปัญหา เช่น รอยขีดข่วน คราบสกปรก พื้นบวม หรือแตกร้าว ซึ่งนอกจากจะทำให้บ้านดูเก่าเร็วแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อการใช้งานด้วย

การดูแลพื้นบ้านให้สวยงามและคงทน จึงต้องพิจารณาตามชนิดของวัสดุปูพื้น และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

2.1 การทำความสะอาดพื้นให้เหมาะกับวัสดุ

พื้นบ้านแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เช่น

  • พื้นไม้ : หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมาก ๆ ให้ใช้ผ้าหมาดเช็ดแทน
  • พื้นกระเบื้อง : ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีกรดแรงเกินไป
  • พื้นหินอ่อน : ห้ามใช้สารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำให้พื้นเป็นรอย

2.2 ป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้น

ควรติดแผ่นรองขาโต๊ะและเก้าอี้ เพื่อป้องกันการขูดขีดของพื้น และหลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์โดยตรง

3. ดูแลผนังบ้านให้ดูใหม่อยู่เสมอ

ผนังบ้านเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดและเป็นตัวบ่งบอกถึงความสวยงามของบ้าน หากดูแลไม่ดี ผนังอาจเกิดคราบสกปรก เชื้อรา หรือสีซีดจางก่อนเวลาอันควร การดูแลผนังให้สวยนานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

3.1 ทาสีบ้านให้ถูกวิธี

การเลือกสีทาบ้านที่เหมาะสมช่วยยืดอายุผนังและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ได้ ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติ เช่น

  • กันน้ำและเชื้อรา ป้องกันความชื้นสะสม
  • กันรังสียูวี ลดปัญหาสีซีดจางจากแดด
  • ทำความสะอาดง่าย ลดการสะสมของฝุ่นและคราบสกปรก

ควรทาสีบ้านใหม่ทุก 5-7 ปี หรือเร็วกว่านั้นหากผนังเริ่มเสื่อมสภาพ และก่อนทาสีใหม่ควรขัดล้างผนังให้สะอาดและทาน้ำยารองพื้นเพื่อช่วยให้สีติดทนนาน

3.2 ทำความสะอาดผนังเป็นประจำ

ผนังภายในบ้านมักจะมีคราบสกปรกจากฝุ่น น้ำมัน หรือรอยมือ ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ และเลี่ยงการใช้แปรงขัดที่แข็งเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวผนังเสียหาย

3.3 ซ่อมแซมรอยร้าวก่อนลุกลาม

รอยร้าวบนผนังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้าง หากพบรอยร้าวขนาดเล็กสามารถใช้ อะคริลิกซีลแลนท์ หรือปูนฉาบอุดรอยร้าวได้ แต่ถ้ารอยร้าวลึกหรือกว้าง ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและซ่อมแซม

4. ดูแลหลังคาและรางน้ำให้ปราศจากปัญหารั่วซึม

Your content goes here. Edit or remove this text inline or in the module Content settings. You can also style every aspect of this content in the module Design settings and even apply custom CSS to this text in the module Advanced settings.

4.1 ตรวจเช็คสภาพหลังคาทุกปี

หลังคาคือด่านแรกที่ช่วยป้องกันบ้านจากฝน แดด และลม หากไม่ได้รับการดูแล อาจเกิดปัญหารั่วซึมหรือแตกร้าว ควรหมั่นตรวจสอบหลังคาปีละ 1-2 ครั้ง โดยดูว่ามี

  • กระเบื้องแตกร้าวหรือหายไปหรือไม่
  • ตะปูหรือสกรูยึดหลังคาหลวม
  • คราบราดำหรือเชื้อราบนแผ่นหลังคา

4.2 ทำความสะอาดรางน้ำฝน

ใบไม้ เศษขยะ หรือแม้แต่รังนก อาจเข้าไปอุดตันรางน้ำ ทำให้น้ำล้นย้อนกลับเข้าบ้านและสร้างความเสียหายได้ ควรทำความสะอาดรางน้ำฝนอย่างน้อย ปีละสองครั้ง และตรวจสอบว่ามีรอยรั่วหรือจุดที่น้ำไหลไม่สะดวก

4.3 ป้องกันตะไคร่และเชื้อราบนหลังคา

หลังคาที่มีคราบตะไคร่หรือเชื้อราไม่เพียงแต่ทำให้บ้านดูเก่า แต่ยังทำให้กระเบื้องเสียหายเร็วยิ่งขึ้น ควรใช้ น้ำยากำจัดเชื้อรา หรือ น้ำส้มสายชูเจือจาง ฉีดพ่นและขัดออกเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อรา

5. ดูแลสวนและพื้นที่รอบบ้านให้สวยงาม

สวนและพื้นที่รอบบ้านเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและทำให้บ้านดูสวยงาม แต่หากไม่ได้รับการดูแล อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของแมลงหรือทำให้เกิดปัญหาน้ำขัง

5.1 ตัดแต่งต้นไม้และพุ่มไม้เป็นประจำ

ต้นไม้ที่ไม่ได้รับการตัดแต่ง อาจมีกิ่งที่ยื่นไปกระทบตัวบ้าน ทำให้กระเบื้องหลังคาหรือหน้าต่างแตกได้ ควรหมั่นตัดแต่งกิ่งไม้ทุก ๆ 3-6 เดือน หากคุณไม่รู้จะหาช่างหรือคนที่จะมาตัดหญ้าดูแลสวนในบ้านของคุณ ก็สามารถติดต่อกับเทศบาลหรือหน่วยงานเขตต่างๆ เพื่อใช้บริการได้

5.2 ป้องกันน้ำขังและการทรุดตัวของดิน

บริเวณสวนหรือสนามหญ้าที่มีน้ำขังสามารถทำให้พื้นดินทรุดและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ควรปรับระดับพื้นที่ให้ลาดเอียงพอเหมาะเพื่อให้น้ำไหลออกจากบริเวณบ้านได้ดี

5.3 ดูแลพื้นทางเดินและระเบียงบ้าน

พื้นทางเดินในสวนหรือระเบียงที่มีคราบตะไคร่ อาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย ควรใช้แปรงขัดทำความสะอาดเป็นประจำ และสามารถใช้ น้ำยากันตะไคร่ ฉีดพ่นเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ

6. ดูแลระบบไฟฟ้าและประปาให้ปลอดภัย

6.1 ตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุของไฟไหม้บ้านได้ ควรหมั่นตรวจสอบ

  • สายไฟที่ฉีกขาดหรือเปื่อย
  • ปลั๊กไฟและสวิตช์ที่หลวม
  • เบรกเกอร์ไฟที่ตัดบ่อยผิดปกติ

หากพบปัญหาควรให้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพมาตรวจสอบและแก้ไข

6.2 หมั่นตรวจสอบระบบประปา

ระบบประปาที่รั่วอาจทำให้ค่าน้ำพุ่งสูงโดยไม่รู้ตัว และอาจสร้างความเสียหายให้พื้นหรือผนังบ้าน ควรตรวจสอบ

  • ท่อประปาใต้ซิงค์ล้างจาน ห้องน้ำ และเครื่องซักผ้า
  • ก๊อกน้ำที่หยดตลอดเวลา
  • แรงดันน้ำที่ลดลงผิดปกติ (อาจเกิดจากท่ออุดตัน)
  • หากมองไม่เห็นก็อาจจะลองตรวจสอบจากค่าน้ำดูว่าแพงผิดปกติหรือไม่

หากพบรอยรั่วเล็ก ๆ อาจใช้ เทปพันเกลียว หรือกาวซ่อมท่อชั่วคราวก่อนเรียกช่างมาซ่อมแซม

6.3 ล้างแทงค์น้ำและทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ

แทงค์น้ำที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาด อาจมีตะกอนและเชื้อโรคสะสม ควรล้างแทงค์น้ำ ปีละหนึ่งครั้ง และเปลี่ยนไส้กรองน้ำตามกำหนดเพื่อให้ได้น้ำสะอาดสำหรับใช้ภายในบ้าน

สรุป

การดูแลบ้านให้สวยและอยู่ได้นาน ไม่ใช่เรื่องยากหากทำอย่างสม่ำเสมอ ทุกส่วนของบ้านตั้งแต่ผนัง หลังคา สวน ระบบไฟฟ้าและประปา ล้วนต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม หากเจ้าของบ้านใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ บ้านก็จะดูดีเหมือนใหม่ไปอีกหลายปี


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย