แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

การถมที่ดินสร้างบ้านเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะคิดถึงเมื่อมีการวางแผนในการสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพราะถือได้ว่าดินนั้นเป็นส่วนสำคัญและเป็นพื้นฐานของการสร้างบ้านและสิ่งปลูกสร้างให้มีความมั่นคง แข็งแรง ไม่เกิดการทรุดตัวเมื่อระยะเวลาผ่านไปยาวนาน ในบทความนี้เราจะพามาดูเกี่ยวกับเรื่องการถมที่ดินสร้างบ้าน การถมที่ดินมีความจำเป็นหรือไม่ การเลือกชนิดของดินเพื่อนำมาถมที่ และอื่นๆ อีกมากมายที่คุณจะต้องรู้ก่อนคุณจะถมที่ดินในพื้นที่ของตัวเอง

การถมที่ดินคืออะไร ?

การถมที่ดิน หมายถึง การเพิ่มระดับความสูงของที่ดินด้วยการนำดิน หรือวัสดุอื่นๆ เข้ามาใส่ในพื้นที่ที่เราต้องการสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ซึ่งการถมที่ดินมักจะทำก็ต่อเมื่อพื้นที่นั้นๆ ดินเดิมมีความอ่อนนุ่มมากเกินไปจนอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายให้กับโครงสร้างได้ในระยะเวลาสั้นๆ หรือเป็นการป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว การถมที่ดินก็จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ในระยะยาว และมั่นใจได้ว่าโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างของเราจะไม่เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต

สร้างบ้านจำเป็นต้องถมที่ดินหรือไม่ ?

หากคุณต้องการสร้างบ้านเป็นของตัวเองหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ก็มักจะมีคำถามตามมาว่า “เราะจะต้องถมที่ดินไหม ?” คำตอบนี้เราสามารถรู้เองได้จากการที่เราให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมเข้ามาช่วยตรวจสอบให้กับเรา หรือเราอาจจะหาข้อมูลเบื้องต้นด้วยตัวเองแบบง่ายๆ อาทิเช่น การสังเกตคราบตะไคร้ต่างๆ บริเวณรอบบ้านของเรา สอบถามกับเพื่อนบ้านว่ามีน้ำท่วมบริเวณดังกล่าวหรือไม่ สังเกตจากพืชที่ขึ้นบริเวณรอบๆ ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ คือ

  • ดินแห้ง แข็ง มักจะพบต้นไม้พวกกระถินหรือมะขามเทศ รู้ได้เลยว่าดินบริเวณนั้นจะมีความแห้ง
  • ดินชื้น มักจะพบต้นอ้อหรือต้นธูปฤๅษี แสดงให้เห็นว่าดินบริเวณนั้นอ่อนนุ่ม

ปัจจัยเหล่านี้เราไม่สามารถละเลยได้เพราะมันอาจจะส่งผลต่อโครงสร้างบ้านของเราในอนาคตได้ หากคุณไม่มีความมั่นใจว่าสรุปแล้วต้องถมที่ดินหรือไม่ก็สามารถให้วิศวกรเข้ามาช่วยตรวจสอบได้เช่นกัน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการถมที่ดินก่อนสร้างบ้าน

ระดับความสูงของพื้นดิน หากบริเวณที่คุณต้องการสร้างบ้านหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ มีพื้นที่ต่ำกว่าบริเวณรอบๆ หรือเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง ก็จำเป็นจะต้องมีการถมที่ดินเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับโครงสร้าง และตัวสิ่งปลูกสร้างไม่อยู่ต่ำจนเกินไป

ลักษณะของดิน หากดินในพื้นที่ของคุณมีความอ่อนหรือมีความชื้นใต้ดินมากเกินไปก็จะทำให้เกิดการทรุดตัวของโครงสร้างบ้านได้ในอนาคตเพราะดินไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ดังนั้นการถมดินก็จะช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ได้เพราะจะทำให้ดินของคุณแน่นยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์ของการสร้าง หากสร้างบ้านหลายชั้นหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ จำเป็นต้องถมดินและเสริมความแข็งแรงเพื่อรองรับโครงสร้างของบ้านหรือสิ่งปลูกสร้าง เพราะหากพื้นดินไม่ได้มีการถมเพิ่มเติมเพื่อให้พื้นดินแน่นก็จะทำให้ทรุดได้

ถ้าเราไม่อยากถมดินจะได้หรือไม่ ?

เรื่องการถมดินก็ไม่เป็นข้อบังคับสำหรับคนที่สร้างบ้านแต่อย่างใด แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราก็ควรที่จะถมดินเพื่อให้พื้นดินมีความแข็งแรงมากขึ้นสำหรับกรณีที่ได้ตรวจสอบแล้วว่าพื้นดินที่เราต้องการสร้างบ้านนั้นมีความอ่อนนุ่ม ใต้ดินชื้นมาก

นอกจากนี้พวกพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการทรุดตัวหรือเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งการถมที่ดินก็จะช่วยให้บ้านของเราไม่ต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมได้เหมือนกัน

ข้อดีและข้อเสียของการถมที่ดิน

การถมที่ดินมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งควรพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าจะถมที่ดินหรือไม่ หรือจะตัดสินใจใช้เสาเข็มรับน้ำหนักของโครงสร้างแทน ซึ่งเรื่องเสาเข็มก็ต้องเลือกให้เหมาะสมอีกด้วยเช่นกัน

ข้อดีของการถมที่ดิน

  • เพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง การถมที่ดินช่วยให้ดินมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของบ้านหรืออาคารได้ดียิ่งขึ้น
  • ป้องกันน้ำท่วม การถมที่ดินช่วยยกตัวบ้านให้สูงขึ้นจากระดับน้ำ ทำให้บ้านปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม
  • ลดปัญหาดินทรุด การถมดินที่มีคุณภาพช่วยให้ดินแน่นขึ้น ลดการทรุดตัวของดินใต้บ้าน

ข้อเสียของการถมที่ดิน

  • ค่าใช้จ่ายสูง การถมที่ดินต้องใช้วัสดุและแรงงานมาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะในพื้นที่ขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาในการรอให้ดินแน่น หลังจากการถมดินต้องรอให้ดินเซ็ตตัว ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่สำหรับดินบางประเภทก็ใช้เวลาเซ็ตตัวไม่นานก็สามารถก่อสร้างได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีเรื่องของเสาเข็มเข้ามาช่วยทำให้ดินอัดแน่นขึ้นด้วย
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและที่ดินใกล้เคียง การถมที่ดินอาจส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำและระดับพื้นของพื้นที่ใกล้เคียงได้

วัสดุที่นิยมใช้ในการถมที่ดิน

การเลือกวัสดุถมดินมีผลต่อความแข็งแรงและความคงทนของที่ดิน ซึ่งวัสดุที่นิยมใช้มีดังนี้

  • ดินลูกรัง เป็นวัสดุที่แข็งแรง เหมาะสำหรับการถมเพื่อเสริมความแข็งแรงและใช้ได้ในงานก่อสร้าง
  • ดินดาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงสูง มักใช้ในการถมดินที่มีการรับน้ำหนักมาก
  • ดินทราย ใช้ในการถมที่ดินเพื่อช่วยระบายน้ำได้ดี นิยมใช้ใต้ฐานรากเพื่อป้องกันน้ำขัง
  • ดินเหนียว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแน่นและไม่ต้องการให้ดินเคลื่อนตัว แต่ระบายน้ำได้ยาก
  • ดินถมทั่วไป มักใช้ในงานถมที่ไม่ต้องการความแน่นมาก เช่น พื้นที่รอบบ้านหรือสวน

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่และโครงสร้างที่ต้องการสร้าง ผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรโครงสร้างสามารถช่วยแนะนำประเภทดินที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ของคุณ

ถมที่ดินต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงสร้างบ้านได้?

หลังจากการถมที่ดิน การสร้างบ้านไม่สามารถเริ่มได้ทันที เนื่องจากต้องรอให้ดินเซ็ตตัวและแน่นพอที่จะรับน้ำหนักของโครงสร้าง ระยะเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก มักใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือนในการรอให้ดินแน่นพอที่จะเริ่มการก่อสร้างได้ หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ อาจใช้เวลานานถึง 6-12 เดือน เพื่อให้ดินเซ็ตตัวดี

แต่บางครั้งหากเราต้องการรีบก่อสร้างให้เร็วที่สุดก็จะมีเรื่องของ “การบดอัดดิน” เข้ามาใช้ด้วย การใช้วิธีบดอัดดินทีละชั้นช่วยเร่งกระบวนการให้ดินแน่นเร็วขึ้น ซึ่งอาจลดเวลาที่ต้องรอให้ดินเซ็ตตัวได้บ้าง

หากเราไม่รอให้ดินเซ็ตตัวให้เพียงพอก่อนสร้างบ้านอาจทำให้บ้านเกิดการทรุดตัวหรือเอียงในอนาคต จึงควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้เพื่อความปลอดภัยของโครงสร้างบ้าน และจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียทรัพย์สินเพื่อมาซ่อมแซมในอนาคต

กฎหมายการถมที่ดินในประเทศไทย

ในประเทศไทย การถมดินอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งกำหนดให้การถมที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างเหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและที่ดินของผู้อื่น นอกจากนี้การถมที่ดินยังต้องคำนึงถึงการระบายน้ำเพื่อป้องกันการรบกวนที่ดินข้างเคียง

กฎหมายกำหนดว่าการถมที่ดินที่มีความสูงเกินกว่าระดับที่ดินข้างเคียงจะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ช่วยลดปัญหาการไหลของน้ำที่จะเกิดขึ้นจากการถมที่ดิน

อ้างอิง พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

อ่านรายละเอียดกฎหมายเพิ่มเติมที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

สรุป

การถมที่ดินมีความสำคัญและมีบทบาทสำคัญในการสร้างบ้านที่มั่นคงและปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมและดินทรุดตัว การถมดินไม่เพียงแต่ช่วยให้โครงสร้างของบ้านมีฐานที่แข็งแรง แต่ยังช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น น้ำท่วมและดินทรุด การเลือกวัสดุถมดิน การให้เวลาในการรอให้ดินเซ็ตตัว และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้การถมดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การเตรียมพื้นที่ด้วยการถมดินให้เหมาะสมและมั่นคง เป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะมีความคงทน และปลอดภัยจากผลกระทบของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย