คอนโดในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบตึกสูงและตึกเตี้ย โดยบางคนจะเรียกคอนโดสูงว่า “High Rise” ส่วนคอนโดเตี้ยที่มีจำนวนชั้นไม่เยอะอาจจะเรียกว่า “Low Rise” ซึ่งคอนโดทั้งสองชนิดก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และปัจจุบันคอนโดทั้งสองรูปแบบก็มีให้เลือกหลากหลายมากในกรุงเทพฯ เรามาดูถึงความแตกต่างของคอนโดแบบ Low Rise และ High Rise กันดีกว่าว่ามันต่างกันอย่างไร แล้วเหมาะกับใครกันแน่ ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อคอนโดจะต้องรู้ก่อน
ก่อนจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องรู้อะไรบ้าง
- สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
คอนโด Low Rise คืออะไร
คอนโด “Low Rise” เป็นคอนโดที่มีความสูงไม่มาก หรือบางคนอาจจะเรียกติดปากว่าคอนโดเตี้ย ตัวคอนโด Low Rise จะมีความสูงไม่เกินที่ 23 เมตร หรือนับเป็นชั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ 7 – 9 ชั้นเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความสูงของห้องในโครงการนั้นๆ ว่าจะสูงมากน้อยเท่าไหร่
จุดเด่นของคอนโด Low Rise
ภาพของหลายๆ คนนอกจากที่ซื้อคอนโดเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายแล้ว ยังมีเรื่องของบรรยากาศการอยู่อาศัย วิวทิวทัศน์เมืองอันสวยงาม แน่นอนว่าคอนโดแบบ Low Rise อาจจะให้เรื่องวิวเมืองไม่ได้ แต่มีจุดเด่นด้านอื่นๆ ที่บางอย่างก็เหนือกว่าคอนโดแบบ Low Rise เรามาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง
1. ความเป็นส่วนตัว
คอนโดแบบ Low Rise ด้วยความที่มีจำนวนชั้นน้อย ทำให้จำนวนผู้อยู่อาศัยก็น้อยไปด้วยเช่นกัน ทำให้ลดความแออัดในด้านการอยู่อาศัย ความวุ่นวายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น การใช้งานส่วนกลางก็จะสามารถใช้ได้อย่างเต็มที่มากกว่าแบบ High Rise พอสมควร
2. ราคาไม่แพง จับต้องได้
สำหรับคนที่มีงบประมาณน้อยและกำลังมองหาที่พักที่อยู่ในเมืองโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องความสูงหรือวิวของเมือง คอนโดแบบ Low Rise ก็ตอบโจทย์มาก เนื่องจากว่าคอนโดประเภทนี้จะไม่ค่อยตั้งอยู่ริมถนนมากนัก มักจะตั้งอยู่ในซอยที่ต้องเดินเข้าไปนิดหน่อยไม่ได้ลึกมาก ทำให้มีราคาถูกลงเพราะที่ดินไม่ได้ติดถนนเหมือนกับคอนโดแบบ High Rise สิ่งที่สำคัญเลยคือแม้จะมีราคาถูกกว่า แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็จัดเต็มเหมือนกับคอนโดแบบ High Rise แต่อยู่ในรูปแบบที่ประหยัดงบและคุ้มค่ามากพอสมควร
3. มีความปลอดภัย
จำนวนห้องที่น้อย ลูกบ้านก็มีจำนวนน้อยตาม ทำให้เหล่าแม่บ้านหรือพนักงานรักษาความปลอดภัยสามารถจดจำลูกบ้านได้ทุกคน ทำให้ผู้คนภายนอกเข้ามาได้ยากกว่าเพราะพนักงานจะจดจำใบหน้าของลูกบ้านได้ทั้งหมด
4. ปล่อยขาย – เช่าได้ง่าย
นอกจากในเรื่องของราคาคอนโด Low Rise จะมีราคาถูกแล้ว การปล่อยขายหรือเช่าก็สามารถทำได้ง่ายกว่าคอนโดแบบ High Rise ปัจจัยมาจากหลายๆ อย่างเช่น หากมีคนสนใจโครงการคอนโดที่เป็นแบบ Low Rise แล้ว จำนวนห้องที่มีน้อยก็ทำให้โอกาสในการซื้อสูงกว่า นอกจากนี้จุดได้เปรียบอีกด้านคือคู่แข่งก็น้อยด้วยเหมือนกัน จึงทำให้ปล่อยขายหรือปล่อยเช่าได้ค่อนข้างเร็วพอสมควร
คอนโด High Rise คืออะไร
คอนโด High Rise เป็นคอนโดที่จะมีความสูงมากกว่า 23 ชั้นขึ้นไป และแน่นอนว่าส่วนมากคอนโดแบบ High Rise มักจะมีความสูงเกินกว่า 20 ชั้น ที่สำคัญคอนโดแบบ High Rise ส่วนมากมักจะอยู่ติดกับถนนหรือสถานีรถไฟฟ้าเป็นหลักสำหรับคอนโดในเมือง ทำให้เดินทางได้สะดวกมาก
จุดเด่นของคอนโดแบบ High Rise
1. เดินทางได้อย่างสะดวก
สำหรับโครงการคอนโดแบบ High Rise ส่วนมากในกรุงเทพฯ แล้วมักจะมีที่ดินติดกับถนนใหญ่หรือติดแนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากหากเทียบกับ Low Rise
2. ห้องมีความหลากหลาย
จำนวนชั้นที่สูงก็ทำให้จำนวนห้องในโครงการก็มีจำนวนมากตาม ทำให้มีความได้เปรียบในการเลือกห้องที่จะมีความหลากหลาย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกด้านของตึกที่เราต้องการได้ด้วย บางคนอาจจะชอบวิวทางทิศใต้ของเมือง บางคนอาจจะชอบวิวทิศเหนือของเมือง
3. อากาศถ่ายเทสะดวก
แน่นอนว่าด้วยความสูงของตัวคอนโดทำให้ห้องสูงๆ จะมีลมถ่ายเทเข้าไปในห้องตลอดเวลา ทำให้มีอากาศหมุนเวียนภายในห้องและไม่ทำให้เกิดความอึดอัด นอกจากนี้อากาศยังค่อนข้างดีพอสมควรด้วย
4. ปล่อยขาย – เช่า ได้ราคาดี
ในการขายหรือเช่าคอนโดในโครงการ High Rise นั้นด้วยจุดเด่นที่ตัวคอนโดส่วนมากมักจะตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้มีผู้คนต้องการมาก ทำให้ราคาขายหรือเช่าก็สูงพอสมควร และในอีกมุมหนึ่งของโครงการที่เป็นแบบ High Rise ก็จะมีเรื่องของค่าส่วนกลางที่ถูกมาก เพราะจำนวนห้องในโครงการที่เยอะทำให้มีการหารค่าส่วนกลางกันจนออกมาคุ้มค่าและประหยัดอย่างมากสำหรับผู้อยู่อาศัย
สรุป
คอนโดแบบ Low Rise จะได้เรื่องของความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าคอนโดแบบ High Rise เนื่องจากจำนวนผู้อยู่อาศัยไม่เยอะและไม่ต้องกลัวเรื่องความวุ่นวาย แถมมีราคาที่ถูกเหมาะสำหรับคนงบน้อย แน่นอนว่าคนที่มีงบน้อยและคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็มักจะเลือกคอนโดแบบ Low Rise กัน
ส่วนคอนโดแบบ High Rise จะเป็นคอนโดที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง และชอบวิวทิวทัศน์ ซึ่งคอนโดแบบ High Rise จะตอบโจทย์ด้านนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามคอนโดทั้งสองรูปแบบก็มีความแตกต่างกันในด้านอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน แล้วแต่ว่าเพื่อนๆ จะชอบคอนโดแบบไหน และคอนโดรูปแบบใดที่ใช่สำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ