แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

การเลือกกระเบื้องปูพื้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการตกแต่งบ้าน เพราะมันช่วยเพิ่มความสวยงามความน่าอยู่ให้กับบ้านแล้ว การเลือกกระเบื้องที่เหมาะสมก็ทำให้การใช้งานของผู้อยู่อาศัยในบ้านสะดวกสบายมากขึ้น แต่ทั้งนี้กระเบื้องแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันไป ซึ่งกระเบื้องที่เราจะยกตัวอย่างนั้นขอยกตัวอย่างยอดนิยมกระเบื้องทั้ง 8 ชนิดนี้

1. กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิกเป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำจากดินเผาผสมกับแร่ธรรมชาติและเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิวเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงาม มีให้เลือกทั้งแบบเคลือบผิวมันและแบบด้าน ข้อดีของกระเบื้องเซรามิกคือมีราคาประหยัด ติดตั้งง่าย และมีลวดลายหลากหลายให้เลือก อย่างไรก็ตาม กระเบื้องชนิดนี้อาจไม่ทนทานต่อแรงกระแทกมากนัก และอาจดูดซับน้ำได้ในบางรุ่น จึงเหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องน้ำที่ไม่มีความชื้นสูง

2. กระเบื้องพอร์ซเลน

กระเบื้องพอร์ซเลนเป็นกระเบื้องที่มีความแข็งแรงกว่ากระเบื้องเซรามิก เนื่องจากผลิตจากดินขาวที่ผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูง จึงมีโครงสร้างเนื้อแน่น ไม่ดูดซึมน้ำ ทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดี สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องครัว โถงทางเดิน หรือบริเวณที่ต้องเผชิญกับความเปียกชื้นตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ราคาของกระเบื้องพอร์ซเลนจะสูงกว่ากระเบื้องเซรามิก และมีน้ำหนักมาก จึงต้องใช้กาวปูกระเบื้องที่มีคุณภาพสูง

3. กระเบื้องแกรนิตโต้

กระเบื้องแกรนิตโต้เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากพอร์ซเลน แต่มีลักษณะเนื้อแน่นตลอดทั้งแผ่น โดยไม่มีการเคลือบผิวเพิ่มเติม ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนหินธรรมชาติ แต่มีความแข็งแรงและราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า ด้วยผิวสัมผัสที่เรียบเนียนและมีความเงางาม กระเบื้องแกรนิตโต้จึงเป็นที่นิยมในอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามและความแข็งแรงสูง อย่างไรก็ตาม กระเบื้องชนิดนี้อาจมีความลื่นเมื่อเปียกน้ำ และต้องติดตั้งอย่างพิถีพิถันเพื่อป้องกันปัญหาการโก่งตัวของแผ่นกระเบื้อง

4. กระเบื้องโมเสก

กระเบื้องโมเสกมีขนาดเล็ก มักมาในรูปแบบของแผ่นที่ประกอบด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ติดเข้าด้วยกัน สามารถทำจากวัสดุหลากหลาย เช่น เซรามิก แก้ว หินธรรมชาติ หรือโลหะ กระเบื้องชนิดนี้นิยมใช้ตกแต่งผนังและพื้นในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ หรือผนังห้องครัว เนื่องจากสามารถสร้างลวดลายที่สวยงามและเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้ดี ข้อดีของกระเบื้องโมเสกคือมีความยืดหยุ่นในการออกแบบและสามารถติดตั้งได้บนพื้นผิวที่โค้งงอ อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ปูนยาแนวที่เหมาะสมและดูแลรักษาเป็นพิเศษ เนื่องจากร่องยาแนวอาจสะสมคราบสกปรกได้ง่าย

5. กระเบื้องดินเผา

กระเบื้องดินเผาเป็นกระเบื้องที่มีลักษณะเนื้อหยาบ สีแดงอมน้ำตาล ซึ่งเป็นสีธรรมชาติของดินเผา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้ากับสไตล์บ้านแบบไทยหรือบ้านที่ต้องการบรรยากาศแบบชนบท กระเบื้องดินเผามีความแข็งแรงพอสมควร แต่ดูดซับน้ำได้มาก จึงต้องเคลือบสารกันซึมเพื่อป้องกันการเกิดคราบและเชื้อรา เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สวน ระเบียง หรือพื้นทางเดินที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ

6. กระเบื้องหินธรรมชาติ

กระเบื้องหินธรรมชาติ เช่น หินแกรนิต หินอ่อน หินทราย และหินชนวน มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เพราะแต่ละแผ่นจะมีลวดลายเฉพาะตัว หินแกรนิตเป็นหินที่แข็งแรงและทนทานมาก เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูง เช่น พื้นห้องโถง ลานจอดรถ ส่วนหินอ่อนให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีรูพรุนและอาจเกิดรอยด่างได้ง่าย หินธรรมชาติทุกชนิดต้องมีการเคลือบสารกันซึมและขัดเงาเป็นระยะเพื่อรักษาความสวยงามและยืดอายุการใช้งาน

7. กระเบื้องซีเมนต์

กระเบื้องซีเมนต์ หรือที่เรียกว่ากระเบื้องลายโบราณ มีเอกลักษณ์ที่ลวดลายและสีสันสวยงาม ให้ความรู้สึกวินเทจและอบอุ่น มักใช้ปูพื้นในร้านกาแฟ โรงแรม หรือบ้านที่ต้องการตกแต่งในสไตล์คลาสสิก อย่างไรก็ตาม กระเบื้องซีเมนต์มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำสูง และอาจเกิดคราบได้ง่าย จึงต้องมีการเคลือบสารกันซึมเพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา

8. กระเบื้องยาง

กระเบื้องยางทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น พีวีซี (PVC) หรือโพลีเมอร์พิเศษ เช่น SPC (Stone Plastic Composite) และ WPC (Wood Plastic Composite) กระเบื้องประเภทนี้มีคุณสมบัติกันน้ำ กันปลวก และช่วยลดเสียงได้ดี นิยมใช้ในอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล หรือพื้นที่ที่ต้องการความนุ่มนวล เช่น ห้องเด็กและฟิตเนส ข้อดีของกระเบื้องยางคือการติดตั้งง่าย สามารถปูทับพื้นเดิมได้โดยไม่ต้องรื้อถอน อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานของกระเบื้องยางอาจสั้นกว่ากระเบื้องเซรามิกและพอร์ซเลน และอาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

สรุป

การเลือกกระเบื้องปูพื้นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงของวัสดุ ความสามารถในการกันน้ำ ลวดลาย สีสัน และความเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะใช้งาน หากเป็นพื้นที่ภายนอกที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ควรเลือกกระเบื้องที่มีความทนทานและกันลื่นได้ดี เช่น กระเบื้องพอร์ซเลนหรือกระเบื้องดินเผา ส่วนพื้นที่ภายในอาคารสามารถเลือกใช้กระเบื้องเซรามิก แกรนิตโต้ หรือกระเบื้องยางตามความต้องการของเจ้าของบ้าน


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย