การขายบ้านเป็นหนึ่งในธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกที่ต้องการขายเพื่อขยับขยาย หรือบ้านหลังเก่าที่ต้องการปล่อยออกไปเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินทุน การขายบ้านให้ได้ราคาดีและขายได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านทุกคนต้องการ
หลายคนเลือกที่จะขายบ้านด้วยตัวเองโดยหวังว่าจะประหยัดค่าคอมมิชชันจากเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์ แต่การขายบ้านไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด มีปัจจัยมากมายที่ต้องคำนึงถึง เช่น การตั้งราคาที่เหมาะสม การทำตลาดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ การคัดกรองผู้ซื้อที่มีศักยภาพ และการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพ
หากไม่มีความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอ อาจทำให้ขายบ้านไม่ได้ หรือขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เอเจนต์อสังหาฯ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเจ้าของบ้านขายทรัพย์สินได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่าที่สุด
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ บทบาทของเอเจนต์อสังหาฯ และประโยชน์ของการใช้บริการนายหน้า รวมถึง วิธีเลือกเอเจนต์ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อช่วยให้คุณขายบ้านได้อย่างราบรื่นและได้ราคาดีที่สุด
ประโยชน์ของการใช้บริการเอเจนต์/นายหน้าอสังหาฯ

ภาพจาก : Freepik
หลายคนอาจจะไม่ค่อยไว้วางใจเอเจนต์ที่จะเข้ามาช่วยคุณขายอสังหาริมทรัพย์เท่าไหร่นัก เนื่องจากความกังวลที่เกิดขึ้นกับคนส่วนมากเลยคือ “การโกง” หรือเอาไปทำอะไรที่มันผิดกฎหมาย แต่สำหรับคนที่ทำอาชีพซื้อขายบ้านหรือซื้อบ้านเพื่อนำมารีโนเวทและขายต่อก็ค่อนข้างจะมีความคุ้นเคยกับเอเจนต์หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์พอสมควร มาดูกันว่าประโยชน์ของการใช้บริการจะมีตรงไหนบ้าง
1. เอเจนต์ช่วยประเมินราคาบ้านให้แม่นยำ
การตั้งราคาขายบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะหากตั้งราคาสูงเกินไปอาจทำให้ขายไม่ออก แต่หากตั้งราคาต่ำเกินไปก็อาจสูญเสียโอกาสในการทำกำไร เอเจนต์อสังหาฯ สามารถช่วยเจ้าของบ้าน ประเมินราคาที่เหมาะสมที่สุด โดยใช้ข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่เอเจนต์ใช้ในการกำหนดราคาของบ้านก็จะมี
- การเปรียบเทียบราคาบ้านที่ขายได้ล่าสุด ในพื้นที่เดียวกัน
- วิเคราะห์ภาวะตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ย ความต้องการซื้อ-ขาย
- พิจารณาปัจจัยเฉพาะของบ้าน เช่น ทำเลที่ตั้ง อายุของบ้าน การปรับปรุงซ่อมแซม
เอเจนต์ยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การปรับปรุงบ้านบางอย่าง เพื่อให้ขายบ้านได้ราคาดีขึ้น เช่น การทาสีใหม่ การเปลี่ยนพื้น หรือการตกแต่งภายในให้ดูสวยงามขึ้น แน่นอนว่าหากบ้านที่ขายได้ราคาดีเท่าไหร่ ค่าคอมมิชชั่นที่เอเจนต์จะได้รับก็มากขึ้นเท่านั้น ทำให้น้อยมากที่จะปล่อยถูกกว่าตลาด ยกเว้นแต่ว่าเป็นความต้องการของเจ้าของบ้านที่รีบปล่อยจริงๆ
2. เอเจนต์วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสขาย

ภาพจาก : Freepik
การขายบ้านไม่ได้หมายถึงแค่การติดป้าย “ขาย” หรือโพสต์ลงเว็บไซต์อสังหาฯ เท่านั้น แต่ต้องมี แผนการตลาดที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บ้านเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อที่เหมาะสมมากที่สุด โดยเอเจนต์อสังหาฯ ส่วนมากมักจะมีเครื่องมือและเทคนิคในการโปรโมตบ้านให้โดดเด่นขึ้น เช่น
- การลงประกาศในเว็บไซต์อสังหาฯ ชั้นนำยอดนิยมของไทย
- การใช้โฆษณาบน Facebook และ Google Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาบ้าน
- การจัด Open House ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาชมบ้าน
- การใช้เครือข่ายนายหน้าและนักลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสขายให้เร็วขึ้น
การทำตลาดที่ดีช่วยให้บ้านของคุณได้รับความสนใจจากผู้ซื้อจำนวนมาก ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการขายได้เร็วและได้ราคาที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เหล่าเอเจนต์ที่เป็นรูปแบบบริษัทก็มักจะมีโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับผู้ซื้อที่สนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายบ้านอีกด้วย
3. เอเจนต์ช่วยคัดกรองผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านต้องเจอคือ การรับมือกับผู้ซื้อที่ไม่จริงจัง บางคนเข้ามาดูบ้านเพราะอยากสำรวจตลาด หรือบางคนอาจไม่มีความสามารถทางการเงินเพียงพอที่จะซื้อบ้าน ซึ่งเอเจนต์สามารถช่วยคัดกรองผู้ซื้อที่มี “ศักยภาพ” ให้คุณได้ดีพอสมควร ทำให้คุณได้ลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อบ้านของคุณ และไม่ต้องเสียในการเดินทางไปหาลูกค้าด้วย
4. เอเจนต์ช่วยเจรจาต่อรองให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
การเจรจาต่อรองเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยความชำนาญ ผู้ขายบางคนอาจพลาดโอกาสเพราะไม่รู้เทคนิคในการต่อรองราคา หรืออาจขายบ้านได้ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น โดยส่วนมากเอเจนต์อสังหาฯ มีประสบการณ์ในการต่อรองและสามารถช่วยให้คุณได้ราคาสูงสุด โดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ ที่เหล่าเอเจนต์มี ทั้งการมีข้อเสนอพิเศษโดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง การใช้จุดเด่นหรือนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่เพื่อโน้มน้าวใจลูกค้า และวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยปิดการขายให้เร็วมากขึ้น
5. เอเจนต์ช่วยดูแลเอกสารและกระบวนการทางกฎหมาย
การขายบ้านเกี่ยวข้องกับเอกสารจำนวนมาก หากไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การเสียภาษีโดยไม่จำเป็น หรือการทำสัญญาที่ไม่ถูกต้อง เหล่าเอเจนต์ที่มีประสบการณ์เหล่านี้ก็มักจะช่วยคุณจัดการเอกสารต่างๆ ให้กับคุณอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมายได้เช่น
- สัญญาจะซื้อจะขาย
- การโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้อง
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการขายบ้านจะเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่มีปัญหาภายหลัง แน่นอนว่าฝั่งเอเจนต์ที่เป็นมืออาชีพเองก็ไม่อยากให้มีปัญหาภายหลังเช่นกัน เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องเสียเวลามาจัดการกระบวนการทางกฎหมาย จึงทำให้ถูกต้องในครั้งเดียวเลยมากกว่า
6. เอเจนต์สามารถจบทุกกระบวนขายบ้านได้
การขายบ้านอาจเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาหลายเดือน และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ตั้งแต่การเตรียมบ้าน การทำตลาด การรับโทรศัพท์จากผู้สนใจ การพาชมบ้าน และการเจรจาต่อรอง เอเจนต์ช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ทั้งหมด ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับสิ่งอื่นในชีวิตได้ โดยไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ โดยพวกเขาสามารถจบทุกกระบวนการขายบ้านให้กับคุณได้แบบสบายๆ
สาเหตุที่ว่าทำไมเอเจนต์ถึงสามารถขายบ้านได้เร็วกว่าเจ้าของมันก็มีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลที่เหล่าเอเจนต์มักจะมีกลุ่มลูกค้าอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก และเพื่อให้เอเจนต์สามารถขายได้และตรงใจมากที่สุด ก็จะพยายามเสนอบ้านหรือคอนโดให้กับลูกค้าเลือก ซึ่งบ้านหรือคอนโดที่คุณฝากขายกับเอเจนต์ก็อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เอเจนต์มีก็ได้
นอกจากนี้การทำการตลาดของเอเจนต์ก็มีหลายช่องทาง ทั้งการถ่ายคลิปภายในบ้านลง Facebook, YouTube, TikTok โพสต์ลงเว็บไซต์ประกาศขายบ้านยอดนิยม หรือช่องทางอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้บ้านของคุณมีโอกาสในการเข้าถึงเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางครั้งหากคุณทำการตลาดเอง ค่าใช้จ่ายอาจจะมากกว่าการใช้บริการเอเจนต์ก็ได้เหมือนกัน
สำหรับค่าธรรมเนียมแบบกลางๆ ของการใช้บริการเอเจนต์มักจะอยู่ที่ 3% ของราคาขายบ้าน จะมากจะน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างเจ้าของบ้านกับเอเจนต์นั้นๆ
การเลือกเอเจนต์อสังหาฯ ที่เหมาะสม

ภาพจาก : Freepik
เมื่อคุณตัดสินใจใช้บริการเอเจนต์อสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยขายบ้านของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเลือกเอเจนต์ที่เหมาะสมและมีความสามารถ ไม่ใช่ทุกเอเจนต์จะมีทักษะ ประสบการณ์ หรือความเข้าใจในตลาดที่ตรงกับความต้องการของคุณ การเลือกเอเจนต์ผิดอาจส่งผลให้บ้านของคุณขายไม่ออก ขายได้ราคาต่ำกว่าที่ควร หรือเสียเวลาไปกับการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น การเลือกเอเจนต์อสังหาฯ ที่ดีจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อความสำเร็จในการขายบ้านของคุณ คุณควรพิจารณาทั้ง ประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ ทักษะในการตลาด ความสามารถในการเจรจาต่อรอง และ ความเข้าใจในพื้นที่ที่คุณต้องการขาย
1. ตรวจสอบประวัติและประสบการณ์
ตามเว็บไซต์ประกาศขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในไทยมักจะมีระบบยืนยันตัวตนของเอเจนต์ เพื่อเพิ่มความไว้วางใจให้กับผู้ที่เข้ามาซื้อหรือฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็จะมีการขอเอกสารกับทางเอเจนต์ไม่ว่าจะเป็น
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารอื่นๆ ที่ออกโดยทางราชการ
- ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
- ข้อมูลอื่นๆ ที่จะสามารถระบุตัวตนของเอเจนต์ได้
นอกจากนี้เอเจนต์ก็ไม่ได้มีเพียงแต่เอเจนต์อิสระเท่านั้น แต่มีเอเจนต์ที่สังกัดบริษัทด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณเองก็สามารถขอเอกสารที่ระบุว่าเอเจนต์นั้นสังกัดบริษัทจริงๆ ได้เช่น
- นามบัตรรูปแบบบริษัทอย่างเป็นทางการ
- หนังสือรับรองการเป็นเอเจนต์ของบริษัทดังกล่าว
- เอกสารอื่นๆ ที่ทางบริษัทออกรับรองบุคคลดังกล่าวว่าเป็นเอเจนต์ที่สังกัดบริษัทนั้นๆ จริง
2. ดูความพร้อมและความเชี่ยวชาญ
หากคุณเลือกใช้บริการเอเจนต์สิ่งที่คุณต้องรู้เลยก็คือ “จำนวนบ้านในมือเอเจนต์เยอะมาก” ซึ่งหากคุณลองหาข้อมูลแล้วพบว่าเอเจนต์ท่านนั้นหรือบริษัทมีจำนวนมากเกินไป นั่นก็อาจจะส่งผลให้บ้านของคุณขายได้ช้าหรือขายออกยากได้เหมือนกัน เพราะอาจจะมีการจัดการที่ไม่ทั่วถึงได้ ซึ่งตรงนี้คุณอาจจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเองด้วย
นอกจากเรื่องของความพร้อมแล้ว ยังมีเรื่องของความเชี่ยวชาญอีกด้วย ซึ่งเอเจนต์บางท่านที่มีประสบการณ์ในพื้นที่นั้นๆ ก็จะสามารถโน้มน้าวและมีโอกาสขายบ้านของคุณได้สูง รวมถึงการที่เอเจนต์นั้นๆ เชี่ยวชาญการทำการตลาด ก็มีโอกาสที่จะดันบ้านของคุณไปโปรโมทการขายก็ได้เช่นกัน
อีกสิ่งที่สำคัญก็คือเรื่องของการ “วางตัว” ไม่ว่าคุณเองหรือลูกค้าที่เอเจนต์จะเข้ามาซื้อบ้านอันดับแรกๆ เลยก็คือเรื่องของการ “วางตัว” อย่างเหมาะสมทั้งกับลูกค้าที่เอเจนต์หามาให้หรือแม้กระทั่งเจ้าของบ้านเองด้วย การที่พิจารณาส่วนนี้ก็มีความสำคัญเช่นกันเพราะมันทั้งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและช่วยบริการให้ทั้งสองฝ่ายสามารถซื้อขายกันได้อย่างเหมาะสม
สรุป
เอเจนต์อสังหาฯ เป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถทำให้การขายบ้านของคุณง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการประเมินราคา วางกลยุทธ์การตลาด คัดกรองผู้ซื้อ เจรจาต่อรอง และจัดการเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง
การเลือกเอเจนต์ที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประสบการณ์ ความสามารถ และกลยุทธ์ในการขายบ้านของคุณ อย่าลืมตรวจสอบประวัติเอเจนต์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับบริการที่ดีที่สุด