แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

ในยุคที่ความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบกลายเป็นปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตในบ้าน หลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการควบคุมเสียงภายในบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่หรือชุมชนที่มีบ้านอยู่ติดกัน เสียงจากเพื่อนบ้าน เสียงรถ หรือแม้กระทั่งเสียงในบ้านตัวเอง เช่น เสียงจากห้องน้ำ ห้องครัว หรือเสียงพูดคุยจากห้องนั่งเล่น อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยไม่รู้ตัว

เพราะเหตุนี้ วัสดุซับเสียงจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการตกแต่งและปรับปรุงบ้าน เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยมีความเงียบสงบ น่าอยู่ และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้แก่ผู้อยู่อาศัย

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าวัสดุซับเสียงมีไว้ใช้เฉพาะในสตูดิโอ ห้องอัดเสียง หรือห้องประชุมเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว วัสดุเหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้กับบ้านทั่วไปได้อย่างหลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากหรือทำลายความสวยงามของบ้าน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับวัสดุซับเสียงยอดนิยมที่เหมาะกับการใช้งานในบ้าน ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความสวยงาม และความคุ้มค่า

1. ใยแก้ว 

วัสดุชนิดแรกที่เราต้องพูดถึงคือใยแก้ว หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “ไฟเบอร์กลาส” เป็นวัสดุที่ถูกใช้ในการควบคุมเสียงมานาน โดยเฉพาะในระบบผนังเบาและฝ้าเพดาน วัสดุชนิดนี้มีโครงสร้างที่เต็มไปด้วยช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างเส้นใย ทำให้สามารถดูดซับเสียงได้ดี โดยเฉพาะเสียงในย่านความถี่กลางถึงสูง เช่น เสียงพูดคุย เสียงโทรทัศน์ หรือเสียงก้องจากห้องที่โล่งมากเกินไป

ใยแก้วมักถูกนำไปติดตั้งภายในผนัง หรือวางบนฝ้าเพดานด้านบน เพื่อทำหน้าที่ซับเสียงก่อนที่จะสะท้อนกลับลงมา นอกจากช่วยลดเสียงสะท้อนภายในห้องแล้ว ยังสามารถช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ในระดับหนึ่งด้วย แม้ว่าจะไม่ได้กันเสียงแบบ 100% แต่ก็ลดความดังของเสียงที่ลอดผ่านได้อย่างมีนัยสำคัญ

ข้อดีอีกอย่างของใยแก้วคือมีน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา ติดตั้งง่าย และสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านวัสดุก่อสร้างหรือโฮมมาร์ทต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งควรมีการหุ้มผิวหรือปิดทับด้วยวัสดุอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นจากเส้นใยฟุ้งกระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

2. โฟมอะคูสติก 

อีกหนึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักดนตรี หรือผู้ที่มีห้องทำงานส่วนตัวในบ้าน คือโฟมอะคูสติก หรือโฟมซับเสียง ซึ่งมักมีลักษณะเป็นแผ่นขนาดไม่ใหญ่นัก ผิวหน้าออกแบบให้มีรูปร่างเป็นลอนคลื่น หรือบางทีก็คล้ายรังไข่ เพื่อช่วยกระจายเสียงและลดการสะท้อนเสียงจากผนัง

โฟมชนิดนี้เหมาะกับการติดตั้งภายในห้องที่มีปัญหาเสียงสะท้อน เช่น ห้องที่ตกแต่งด้วยกระเบื้อง กระจก หรือผนังเรียบที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก ซึ่งจะทำให้เสียงพูด เสียงเครื่องเสียง หรือเสียงดนตรีกระทบผนังและสะท้อนกลับมา ทำให้เกิดความก้องไม่พึงประสงค์

ข้อดีของโฟมอะคูสติกคือความเบา ติดตั้งง่าย สามารถเลือกสีหรือรูปทรงได้หลากหลายตามสไตล์ของห้อง นอกจากนี้ยังมีราคาค่อนข้างเข้าถึงง่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพเสียงในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนมากเกินไป

3. แผ่นโฟมเมลามีน 

แผ่นโฟมเมลามีนเป็นวัสดุซับเสียงที่มีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของความทนทานต่อความร้อน และประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงสูง โดยเฉพาะเสียงในย่านกลางถึงสูง โครงสร้างของโฟมเมลามีนเป็นเซลล์เปิด (open cell) ทำให้สามารถดูดซับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัสดุชนิดนี้เหมาะกับห้องที่ต้องการมาตรฐานเสียงสูง หรือมีการใช้เครื่องเสียงคุณภาพ เช่น ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องฟังเพลง หรือห้องประชุมที่ต้องการควบคุมเสียงอย่างจริงจัง แม้ว่าราคาจะสูงกว่าโฟมทั่วไป แต่ประสิทธิภาพที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่า

ข้อดีอีกอย่างคือวัสดุชนิดนี้ไม่ติดไฟง่าย และไม่เกิดควันพิษเมื่อเกิดเพลิงไหม้ จึงเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยภายในบ้านด้วย

4. โฟม PE หรือ EVA 

หากคุณกำลังมองหาวัสดุซับเสียงแบบง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง โฟม PE หรือ EVA อาจเป็นทางเลือกที่ดี โดยโฟมเหล่านี้มักใช้ในการปูพื้นไม้ลามิเนต หรือซ่อนอยู่หลังผนังตกแต่งเพื่อช่วยลดเสียงสะท้อนและเสียงกระแทกเบื้องต้น

แม้ว่าจะไม่ได้กันเสียงในระดับมืออาชีพ แต่โฟมชนิดนี้สามารถช่วยปรับบรรยากาศของห้องให้เงียบขึ้นได้ในระดับที่พอเหมาะ โดยเฉพาะหากนำไปใช้ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน หรือพรม ซึ่งจะช่วยซับเสียงได้ดียิ่งขึ้น

ข้อดีคือหาซื้อง่าย ราคาถูก ตัดติดได้เอง และมีหลากหลายความหนาให้เลือกตามจุดประสงค์การใช้งาน

5. แผ่นยิปซั่มซับเสียง 

แผ่นยิปซั่มที่ออกแบบมาเพื่อซับเสียงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งบ้านให้ดูเรียบร้อย และไม่ให้วัสดุซับเสียงดูโดดเด่นเกินไป โดยแผ่นยิปซั่มเหล่านี้จะมีรูหรือช่องเล็ก ๆ บนพื้นผิว เพื่อให้เสียงสามารถแทรกผ่านและถูกดูดซับโดยวัสดุด้านหลัง

มักใช้ในการทำฝ้าเพดาน หรือผนังภายในห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องประชุมย่อยในบ้าน ข้อดีคือสามารถทาสีหรือบุผิวให้ดูเรียบหรูได้ ไม่ทำให้ห้องดูเหมือนสตูดิโอ

แม้ว่าจะติดตั้งยากกว่าวัสดุอื่น แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความสวยงามที่ผสมผสานกับประสิทธิภาพในการควบคุมเสียงอย่างลงตัว

6. ผ้าและเฟอร์นิเจอร์

วัสดุซับเสียงไม่ได้จำกัดแค่แผ่นหรือโฟมเท่านั้น แต่ผ้าและเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวนุ่ม เช่น โซฟาผ้า ผ้าม่าน พรม หรือแม้กระทั่งเบาะนั่ง ต่างก็มีคุณสมบัติในการซับเสียงได้อย่างน่าทึ่ง หากบ้านของคุณมีผนังโล่งหรือหน้าต่างกระจกจำนวนมาก การตกแต่งด้วยวัสดุเหล่านี้จะช่วยดูดซับเสียงสะท้อนภายในห้อง ทำให้เกิดบรรยากาศที่เงียบสงบมากขึ้น

ยิ่งพื้นผิวผ้ามีความหนาแน่นมากเท่าใด ก็จะสามารถดูดซับเสียงได้ดีขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนสไตล์ห้องได้ง่าย เช่น การเปลี่ยนม่านหรือปลอกเบาะ ซึ่งทั้งประหยัดและไม่ต้องยุ่งยากกับการติดตั้งโครงสร้างเสริมใด ๆ

สรุป

การเลือกใช้วัสดุซับเสียงในบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยุ่งยากหรือมีค่าใช้จ่ายสูงเสมอไป สิ่งสำคัญคือการเข้าใจธรรมชาติของเสียงภายในบ้านและการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่ที่ต้องการควบคุมเสียง ไม่ว่าจะเป็นใยแก้ว โฟมอะคูสติก โฟมเมลามีน โฟม PE หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ผ้านุ่ม ๆ ต่างก็สามารถเป็นผู้ช่วยในการสร้างความเงียบสงบให้กับบ้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บ้านที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังต้องให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย และเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แท้จริง การใช้วัสดุซับเสียงจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเติมเต็มบ้านให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย