แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

ไม่ว่าจะบ้านใหม่หรือบ้านเก่าก็อาจจะเจอปัญหากับน้ำซึมในห้องน้ำ หลังคารั่ว น้ำซึมตรงกำแพงได้เหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่บ้านมักจะเจอปัญหาเหล่านี้ มันทำให้บ้านเราทั้งสกปรกรวมถึงหากเจอปัญหาเป็นระยะเวลานานตัวน้ำเองก็สามารถแทรกซึมผ่านรอยร้าวกัดกร่อนโครงสร้างบ้านจนเกิดผลกระทบกับโครงสร้างหลักได้เหมือนกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าพบปัญหาแบบนี้แล้วเราจะแก้อย่างไรบ้าง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าบ้านเรามีจุดน้ำซึมอยู่

วิธีสังเกตบ้านมีรอยรั่วซึม

การสังเกตบ้านที่มีรอยรั่วซึมนั้นอาจจะทำได้ยากสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนหลังคาว่าหลังคามีการรั่วซึมหรือไม่ เพื่อที่เวลาถึงหน้าฝนแล้วจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้น นอกจากในด้านของหลังคาบ้านที่มักจะเกิดปัญหารั่วซึมได้แล้วนั้น ผนังของบ้าน ท่อน้ำ ก็ยังเกิดการรั่วซึมได้ด้วยเช่นกัน และนี่ก็จะเป็น 4 วิธีเช็คว่าบ้านของคุณมีจุดรั่วซึมหรือไม่ ?

1. สังเกตจากปั้มน้ำ

บ้านส่วนมากย่อมมีการติดตั้งปั้มน้ำไว้อยู่แล้ว เราสามารถสังเกตได้ไม่ยากเลยคือหากเรามีการใช้งานน้ำภายในบ้านมักจะมีเสียงปั้มน้ำดังอยู่ตลอดเวลา ทดสอบง่ายๆ ด้วยการที่เราปิดก๊อกทุกอย่างดูแล้วลองฟังเสียงว่าตัวปั้มน้ำยังทำงานหรือไม่ ถ้าเกิดว่ายังมีเสียงปั้มน้ำทำงานอยู่ก็อาจจะสันนิษฐานได้เลยว่าบางจุดอาจจะเกิดการรั่วซึมขึ้นให้เราลองหาดูว่ามันรั่วจากตรงไหน

2. สังเกตจากค่าน้ำและมิเตอร์น้ำ

หากเราจำได้ว่าค่าน้ำต่อเดือนของเราอยู่ที่เท่าไหร่มันก็จะพอบอกได้ว่าบ้านของเราเกิดการรั่วซึมของน้ำหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าบ้านของเราเกิดการรั่วซึม แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาค่าน้ำมันจะแพงกว่าปกติที่เราใช้ตามปกติ ซึ่งส่วนนี้เราต้องเป็นคนสังเกตเอง นอกจากนี้ในฝั่งของมิเตอร์น้ำก็บอกได้เช่นกันว่าบ้านของเรามีจุดที่น้ำรั่วซึมหรือไม่โดยการปิดน้ำในบ้านทั้งหมด แล้วถ้าหากว่ามิเตอร์มันยังหมุนอยู่ก็แสดงว่าบ้านเราน่าจะมีน้ำรั่วซึมแล้ว ซึ่งอาจจะมาจากท่อน้ำบ้านเราที่อยู่ใต้ดินแตกก็ได้เช่นกัน

3. มีรอยคราบเหมือนน้ำอยู่บริเวณบ้าน

ในบริเวณที่น้ำรั่วไม่ว่าจะเป็นการรั่วจากห้องน้ำบริเวณชั้นสอง น้ำรั่วจากหลังคา น้ำรั่วซึมในกำแพง มันก็มักจะทิ้งคราบของน้ำ ร่องรอยของความเปียกชื้นไว้อยู่เสมอ จริงๆ เรื่องนี้มันก็สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากรอยร้าวของบ้าน หากบ้านของคุณหลังคามีรอยร้าวแล้วเกิดฝนตก น้ำฝนอาจจะรั่วลงมาจากหลังคาแล้วซึมเข้าสู่บริเวณรอยแตกของบ้านได้เช่นกัน นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องของระบบปะปาที่อาจจะมีปัญหาพวกท่อแตกทำให้เกิดน้ำซึมได้ ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นคุณอาจจะต้องมีการปิดระบบน้ำหากไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้งาน และเรียกช่างเข้ามาดูแลแก้ไขให้เร็วที่สุด

4. เกิดเชื้อราเป็นดำๆ ที่กำแพง หรือมีคราบเขียวๆ

อันนี้สังเกตได้ง่ายและชัดเจนที่สุด บางครั้งบ้านของคุณอาจจะไม่ได้มีรอยร้าวและดูเหมือนว่าน้ำน่าจะซึมหรือรั่วไม่ได้ ในส่วนนี้ปัญหาหลักๆ เกิดได้จาก 2 สาเหตุคืออันดับแรกตรงจุดนั้นอาจจะโดนน้ำเป็นประจำแล้วทำให้บ้านเกิดเชื้อราหรือเกิดคราบตระไคร้บริเวณพนังได้ โดยเฉพาะบ้านที่ไม่ได้ทากันซึม กับอีกอย่างคืออาจจะมีท่อแตกภายในกำแพงและน้ำมันซึมอยู่ ทำให้เมื่อผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่งพวกเชื้อราหรือคราบตะไคร้ก็จะเกาะอยู่บนกำแพง หากเกิดแบบนี้แล้วและเราไม่สามารถแก้ไขเองได้ แนะนำว่าให้เรียกช่างเข้ามาซ่อมโดยด่วน เพราะไม่อย่างงั้นแล้วจะเกิดผลกระทบต่อบ้านอย่างรุนแรงเลย

5. บ้านมีกลิ่นชื้นรุนแรงมาก

กลิ่นชื้นนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากห้องน้ำมีอากาศไม่ถ่ายเททำให้มันมีความชื้นสูงและเกิดกลิ่นชื้นตามมาได้ รวมถึงในห้องที่การระบายอากาศไม่ดีนักก็ทำให้เกิดความชื้นได้เหมือนกัน ยิ่งบ้านไหนที่เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วห้องนั้นถ่ายเทอากาศไม่ดี คุณจะสังเกตได้เลยว่าเวลาปิดแอร์ปุ๊บความเย็นเริ่มคลายตัวทำให้บางจุดของบ้านเกิดคราบน้ำ และถ้าหากไม่มีการถ่ายเทอากาศอย่างเหมาะสมก็จะทำให้เกิดความชื้นได้เช่นกัน

แต่ถ้าสมมติว่าเราทำทุกวิธีในการกำจัดต้นตอที่น่าจะเป็นสาเหตุของความชื้นแล้ว แต่ว่ากลิ่นของมันยังอยู่ให้เราลองหาจุดที่เรารู้สึกว่าตรงจุดนั้นกลิ่นแรงที่สุดดู หากพบว่ามันเป็นพนังหรืออยู่บนเพดาน วิธีง่ายๆ คือลองจับดูว่าจุดนั้นมันอ่อนนุ่มผิดปกติหรือไม่ หรือมันมีการนูนที่แปลกไปจากจุดอื่นหรือเปล่า แต่จริงๆ เพียงจับเราก็จะรู้ถึงความแตกต่างแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็สันนิษฐานได้เลยว่ามันน่าจะเกิดน้ำรั่วซึมในจุดนั้นแล้ว

จุดยอดนิยมที่มักจะเกิดน้ำรั่วเข้าบ้าน

บ้านที่มีน้ำรั่วซึมเข้าบ้านก็สร้างความกังวลใจและความหนักใจให้กับเจ้าของบ้านไม่น้อย และนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สามารถแก้ไขได้ยากอย่างมาก สำหรับจุดรั่วเล็กๆ อาจจะไม่เท่าไหร่เราสามารถหาวัสดุและทำการอุดรูรั่วนั้นเองได้ แต่ถ้ามันใหญ่มากอาจจะต้องมีการทุบบางส่วนเพื่อทำการซ่อมแซมบ้านและอุดรูรั่วนั้น แล้วจุดไหนบ้างที่มักจะเกิดรอยรั่วเป็นประจำ

1. หลังคา

หลังคาเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีความสำคัญกับตัวบ้านมาก เพราะมันช่วยทั้งปกป้องบ้านของเราให้พ้นจากแสงแดด ไม่โดนฝน แต่หากมีอะไรตกใส่หลังคาแรงมากๆ หรือหลังคาของเราผ่านลมฝนแดดมาเป็นระยะเวลานานก็ทำให้มีการผุพังได้เหมือนกัน ดังนั้นเป็นจุดแรกของหลายๆ บ้านเลยที่มักจะเกิดปัญหาหลังคารั่ว น้ำรั่วมาจากหลังคา วิธีการเช็คง่ายๆ หากเราอยากรู้โดยที่ไม่ต้องรอให้ถถึงหน้าฝนก็คือ “การฉีดน้ำขึ้นไปบนหลังคาบ้าน” การฉีดน้ำขึ้นไปบนหลังคาบ้านเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วให้อีกคนคอยสังเกตดูว่าในบ้านหรือจุดไหนมีอาการรั่วซึมหรือน้ำตกลงมาเป็นสายหรือไม่ หากไม่มีก็อุ่นใจได้ แต่ถ้ามีแล้วล่ะก็ต้องรีบแก้ไขทันที

2. ผนังของบ้าน

ในส่วนของผนังบ้านที่เกิดน้ำรั่วซึมนั้นก็เกิดจากการที่บ้านไม่ได้ทากันชื้นได้เหมือนกัน หากบ้านไหนไม่ได้ทากันชื้นให้กับกำแพงบ้านแล้วล่ะก็ เวลาตัวกำแพงบ้านเจอน้ำหรืออยู่ในช่วงหน้าฝนแล้วต้องเจอน้ำบ่อยๆ มันก็จะทำให้เกิดพวกเชื้อราและความชื้นขึ้นได้จนสร้างความเสียหายให้กับผนัง

อีกอย่างคือบ้านของเราเกิดรอยร้าวขึ้นทำให้น้ำซึมผ่านรอยร้าวนั้นเข้ามาก็ทำให้น้ำซึมได้เหมือนกัน หากมันเป็นรอยเล็กๆ การอุดเองก็ไม่ใช่ปัญหาและควรรีบทำทันที แต่ถ้าหากรอยใหญ่จนคิดว่าเราไม่สามารถทำเองได้แนะนำว่าควรเรียกช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูดีกว่า

3. ห้องน้ำชั้นบน

ในส่วนของห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างสุดมันไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมเท่าไหร่ ส่วนมากแล้วมักจะเกิดจากห้องน้ำชั้น 2 ที่มักจะเจอปัญหาการรั่วซึมได้มากกว่า โดยสังเกตง่ายๆ คือบริเวณฝ้าเพดานจะมีรอยเหมือนคราบน้ำเกาะบริเวณเพดาน ทำให้น้ำมันซึมออกมาและสร้างความเสียหายให้กับเพดานได้เหมือนกัน

4. น้ำซึมจากพื้นของบ้าน

น้ำซึมจากพื้นของบ้านนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการที่ท่อประปาแตก หากพื้นบ้านของเราร้าวก็จะทำให้น้ำซึมเข้าบ้านได้ หรืออีกสาเหตุคือใต้ดินของบ้านเรามีความชื้นสูงทำให้มันเกิดการซึมผ่านพื้นบ้านของเราก็ได้เช่นกัน สำหรับการแก้ไขเรื่องน้ำซึมบริเวณพื้นบ้านนั้นเป็นสิ่งที่เหมือนจะแก้ง่ายแต่ความจริงก็ไม่ง่ายขนาดนั้น หากพบว่าน้ำซึมจากพื้นบ้านแนะนำว่าให้รีบเรียกช่างเข้ามาตรวจสอบและทำการแก้ไขให้เร็วที่สุด หากปล่อยไว้นานจะทำให้โครงสร้างบริเวณพื้นบ้านของเรามีปัญหาและอาจจะเกิดบ้านทรุดตัวได้

สรุป

สำหรับปัญหาน้ำซึมในบ้านของเราก็นับได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่และจำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่ได้สังเกตว่าน้ำรั่วน้ำซึมมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน ยิ่งเราปล่อยไว้นานมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างบ้านของเราก็มีมากขึ้นเท่านั้น หากคุณไม่ทราบว่าตรงจุดไหนที่มีรอยรั่วกันแน่ก็สามารถเรียกช่างเข้ามาช่วยตรวจสอบและทำการแก้ไขให้กับคุณได้เช่นกัน


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย