แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย

การที่เราจะสร้างบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างสักอย่าง หรือแม้กระทั่งการปรับปรุงรีโนเวทบ้านของเรา ความแข็งแรงและความปลอดภัยของสิ่งปลูกสร้างจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการก่อสร้าง เพราะโครงสร้างที่ดีจะช่วยให้บ้านคงทนต่อสภาพแวดล้อมและแรงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของบ้านที่หลายคนอาจมองข้าม คือ เสาเอ็น และ คานทับหลัง

แม้จะดูเหมือนเป็นเพียงโครงสร้างเล็กๆ ในระบบโครงสร้างบ้าน แต่แท้จริงแล้ว ทั้งเสาเอ็นและคานทับหลังมีบทบาทสำคัญมาก โดยเฉพาะในการเสริมความแข็งแรงให้กับผนัง ลดการแตกร้าว และป้องกันปัญหาโครงสร้างบ้านในระยะยาว หลายคนที่ไม่มีพื้นฐานทางวิศวกรรมหรือก่อสร้าง อาจสงสัยว่าเสาเอ็นและคานทับหลังคืออะไร และสำคัญกับบ้านอย่างไร และมันเป็นเหมือนตัวละครลับที่จะต้องแบกน้ำหนักของบ้านเอาไว้ด้วย เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับมันกันดีกว่าว่ามีประโยชน์อย่างไร

เสาเอ็นและคานทับหลังคืออะไร

เสาเอ็น และ คานทับหลัง เป็นส่วนสำคัญในงานก่อสร้างบ้านที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างผนังโดยตรงที่จำเป็นจะต้องทำหากมีการก่อสร้างกำแพงกั้นห้องหรือทำผนังใหม่ เรามาทำความเข้าใจกันว่าทั้งสองคืออะไร

เสาเอ็น คือเสาคอนกรีตเสริมเหล็กที่ติดตั้งในแนวตั้ง โดยมักหล่อรวมกับผนังในบริเวณที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น มุมของผนัง ขอบวงกบประตู หรือหน้าต่าง เสาเอ็นมีหน้าที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผนัง ป้องกันการแตกร้าวจากแรงดันหรือแรงกระแทก โดยเฉพาะในจุดที่มีความเสี่ยงสูง

ส่วนคานทับหลัง คือคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ติดตั้งในแนวนอน อยู่ด้านบนของวงกบประตูและหน้าต่าง คานทับหลังมีหน้าที่สำคัญในการรับน้ำหนักของผนังด้านบน และกระจายน้ำหนักไปยังโครงสร้างที่แข็งแรง เช่น เสาหรือผนังหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้วงกบต้องรับน้ำหนักโดยตรง

ทั้งสองอย่างนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างระบบโครงสร้างที่แข็งแรงและสมดุล โดยเฉพาะในบ้านที่สร้างด้วยวัสดุแบบดั้งเดิม เช่น อิฐมอญหรืออิฐบล็อก ที่มีความจำเป็นต้องเสริมความแข็งแรงให้กับผนัง เพราะถ้าหากว่าเราไม่ใส่เสาเอ็นหรือคานทับหลังเลยก็อาจจะทำให้เกิดรอยแตก หรือแย่ที่สุดคือกำแพงที่ก่อมาจะล้มและทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายได้

ความสำคัญของเสาเอ็นและคานทับหลัง

เสาเอ็นและคานทับหลังเป็นองค์ประกอบที่ช่วยป้องกันปัญหาทางโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้จะดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่ผลกระทบของการไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้อาจใหญ่โตจนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมหาศาล

ความสำคัญของเสาเอ็น คือช่วยเสริมความมั่นคงในแนวตั้งของผนัง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีโอกาสแตกร้าว เช่น มุมผนังหรือบริเวณที่ผนังต้องรับแรงจากวงกบ เสาเอ็นยังช่วยป้องกันการทรุดตัวของผนังในระยะยาว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการทรุดตัวของดินหรือแรงกระแทกจากภายนอก

สำหรับคานทับหลัง ความสำคัญของมันอยู่ที่การลดภาระน้ำหนักที่กดทับลงบนวงกบประตูและหน้าต่าง หากไม่มีคานทับหลัง น้ำหนักจากผนังด้านบนจะกดทับวงกบโดยตรง ซึ่งอาจทำให้วงกบเกิดการบิดเบี้ยวหรือแตกหักได้ในที่สุด การมีกานทับหลังช่วยกระจายน้ำหนักนี้ไปยังส่วนที่แข็งแรงกว่า เช่น เสาหรือผนังหลัก ทำให้ผนังโดยรวมแข็งแรงขึ้น

อีกประเด็นสำคัญคือความปลอดภัยในระยะยาว ผนังที่ไม่มีเสาเอ็นและคานทับหลังมักมีโอกาสแตกร้าวและทรุดตัวได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้พักอาศัย โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวหรือแรงกระแทกอย่างรุนแรง

การติดตั้งเสาเอ็นและคานทับหลังเบื้องต้น

สำหรับเสาเอ็น จะต้องวางตำแหน่งในแนวตั้งในบริเวณที่สำคัญ เช่น มุมผนัง หรือบริเวณข้างวงกบของประตูและหน้าต่าง โดยใช้เหล็กเสริมเป็นโครงสร้างหลัก เหล็กที่ใช้มักมีขนาดตั้งแต่ 6 มม. ถึง 12 มม. ขึ้นอยู่กับการออกแบบ เมื่อจัดวางเหล็กเสร็จแล้ว จึงเทคอนกรีตให้ครอบคลุมโครงเหล็ก เพื่อให้ได้โครงสร้างที่มั่นคง

ส่วนคานทับหลังจะติดตั้งในแนวนอนเหนือวงกบ โดยวางเหล็กเสริมภายในคาน จากนั้นเทคอนกรีตและปรับพื้นผิวให้เรียบ ความหนาของคานทับหลังมักอยู่ระหว่าง 10 ถึง 15 ซม. ขึ้นอยู่กับการออกแบบเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ขนาดและตำแหน่งของเสาเอ็นและคานทับหลังอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของบ้านและวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง การปรึกษาวิศวกรหรือช่างผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก และแต่ละโครงสร้างก็มีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการออกแบบด้วย

ทุกบ้านต้องใส่เสาเอ็นและคานทับหลังไหม

บ้านทุกหลังจำเป็นต้องใส่เสาเอ็นและคานทับหลังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุก่อสร้างและลักษณะการใช้งาน

บ้านที่ใช้วัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น อิฐมอญหรืออิฐบล็อก ควรติดตั้งเสาเอ็นและคานทับหลังอย่างยิ่ง เพราะวัสดุเหล่านี้ไม่มีความแข็งแรงในตัวเองมากพอที่จะต้านทานแรงดันหรือแรงกระแทกได้

ในทางกลับกัน บ้านที่ใช้โครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป หรือผนังที่เป็นวัสดุเบา เช่น แผ่นยิปซัม หรือวัสดุที่ไม่ต้องการการรับน้ำหนักจากโครงสร้างผนัง อาจไม่จำเป็นต้องมีเสาเอ็นและคานทับหลัง

การตัดสินใจว่าจะติดตั้งเสาเอ็นและคานทับหลังหรือไม่ ควรขึ้นอยู่กับคำแนะนำของวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินความเหมาะสมของโครงสร้างบ้านแต่ละหลังได้

ข้อเสียของการไม่ใส่เสาเอ็นและคานทับหลัง

ในกรณีที่จำเป็นต้องใส่เสาเอ็นหรือคานทับหลัง แต่ว่าไม่ได้มีการใส่ อาจนำมาซึ่งปัญหามากมายที่ส่งผลต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้างบ้านในระยะยาว

ผนังที่ไม่มีเสาเอ็นและคานทับหลังมักมีโอกาสแตกร้าวสูง โดยเฉพาะในบริเวณมุมผนังหรือรอบวงกบ นอกจากนี้ น้ำหนักที่กดทับวงกบโดยตรงอาจทำให้วงกบเสียรูปหรือแตกหักได้

อีกทั้ง บ้านที่ไม่มีเสาเอ็นและคานทับหลังมักไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกหรือแรงดันจากภายนอกได้ดี เช่น ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว หรือแรงลมแรงในพื้นที่ที่มีพายุ

นอกจากนี้ การซ่อมแซมผนังที่แตกร้าวหรือเสียหายยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งอาจมากกว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเสาเอ็นและคานทับหลังตั้งแต่แรก

วัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเสาเอ็นและคานทับหลัง

วัสดุที่ใช้ในการทำเสาเอ็นและคานทับหลังมีบทบาทสำคัญต่อความแข็งแรงและความทนทานของโครงสร้างบ้าน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้าง แต่ยังช่วยให้บ้านสามารถรับน้ำหนักและแรงต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ในปัจจุบัน วัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเสาเอ็นและคานทับหลังมีหลายชนิด โดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและสามารถใช้งานร่วมกับโครงสร้างอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม

วัสดุที่พบมากที่สุดในงานก่อสร้างประเภทนี้คือ คอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคอนกรีตและเหล็กเสริม คอนกรีตมีคุณสมบัติในการรับแรงอัดได้ดี ส่วนเหล็กเสริมมีความสามารถในการรับแรงดึง ดังนั้น เมื่อทั้งสองวัสดุนี้ทำงานร่วมกัน จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานให้กับเสาเอ็นและคานทับหลัง เหล็กเสริมที่ใช้มักเป็นเหล็กข้ออ้อยหรือเหล็กเส้นกลมที่มีขนาดและความแข็งแรงตามที่วิศวกรออกแบบไว้

นอกจากคอนกรีตเสริมเหล็กแล้ว บางครั้งในงานก่อสร้างที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น บ้านสำเร็จรูป อาจมีการใช้ วัสดุสำเร็จรูป ที่ผลิตมาจากโรงงาน เช่น คานหรือเสาสำเร็จรูปที่มีการเสริมเหล็กและผ่านกระบวนการหล่อคอนกรีตในโรงงานอย่างได้มาตรฐาน วัสดุสำเร็จรูปเหล่านี้มีข้อดีตรงที่ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง และคุณภาพของชิ้นส่วนมักจะสม่ำเสมอ แต่ในกรณีที่ต้องการความยืดหยุ่นในการออกแบบโครงสร้าง คอนกรีตหล่อในที่ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่า

สุดท้ายนี้ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับเสาเอ็นและคานทับหลังไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของวัสดุเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ก่อสร้าง การปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้างจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างที่ได้จะมีคุณภาพและปลอดภัยในระยะยาว และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “ควรจะยึดคำแนะนำของวิศวกรประจำโครงการของคุณจะดีที่สุด” เนื่องจากแต่ละโครงการหรือบ้านแต่ละหลังก็จะมีความแตกต่างกันไปทั้งสภาพแวดล้อม โครงสร้าง วัสดุ ทำให้ไม่สามารถมีบรรทัดฐานที่จะตัดสินได้ว่าแบบไหนถูกต้อง ขึ้นอยู่กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ

สรุป

เสาเอ็นและคานทับหลังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยให้กับโครงสร้างบ้าน แม้จะดูเหมือนเป็นเพียงรายละเอียดเล็กๆ ในการก่อสร้าง แต่ผลกระทบของการไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้อาจใหญ่หลวงจนไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังวางแผนสร้างบ้าน อย่าลืมใส่ใจรายละเอียดนี้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้โครงสร้างที่แข็งแรงและปลอดภัยที่สุด

บ้านที่ดีเริ่มต้นจากโครงสร้างที่แข็งแรง และเสาเอ็นกับคานทับหลังคือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้บ้านของคุณมั่นคงตลอดอายุการใช้งาน


แชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ อ่านเลย